โพสต์โดย : Admin เมื่อ 26 มี.ค. 2564 01:21:20 น. เข้าชม 166429 ครั้ง
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 25 มี.ค.2564 ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เมืองทองธานี พล.ต.ต.ปัญญา ปิ่นสุข รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) นายชีวะภาพ ชีวะธรรม รองอธิบดีกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) และพ.ต.อ.ณัฐณวิทย์ สิทธาภิรมย์ ผกก.1 บก.ปปป.
ร่วมแถลงข่าวการจับกุม นายสุรเดช อัคราช อายุ 56 ปี ผู้อำนวยการสํานักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.มุกดาหาร และน.ส.กชพรรณ แสงวิรุณ หรือ น.ส.ทิพย์เกษร แสงวิรุณทร อายุ 27 ปี จากการเรียกรับสินบน 2 ล้านบาท เพื่ออำนวยความสะดวกการคืนของกลางไม้พะยูง โดย จับกุมได้ที่ร้านกาแฟใกล้สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติฯ จ.มุกดาหาร พร้อมของกลางเงินสด 2 ล้านบาท และโทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง
พล.ต.ต.ปัญญา กล่าวว่า คดีเริ่มจากเมื่อปี 2549 ตำรวจป่าไม้ตรวจยึดไม้พะยูง จำนวน 11 ตู้คอนเทนเนอร์ มูลค่ากว่า 600 ล้านบาท ตรวจสอบพบถูกสวมเป็นไม้ต่างแดน และใช้เอกสารผ่านแดนปลอม จึงจับกุมฐานมีไม้และครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนดำเนินคดีใช้เอกสารปลอมที่ จ.มุกดาหาร ส่วนคดียึดไม้ อัยการสั่งไม่ฟ้อง คดีถึงที่สุดแล้ว ศาลฎีกาจึงสั่งคืนไม้ของกลางกับบริษัทผู้เสียหาย แต่เนื่องจากเป็นไม้ของ สปป.ลาว จึงมีผู้แจ้งสิทธิ์จากสปป.ลาวเข้ามาหลายราย
พ.ต.อ.ณัฐณวิทย์ กล่าวว่า เมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา นายคำสะไหว พมมะจัน อายุ 51 ปี นักค้าไม้ชาว สปป.ลาว เป็นตัวแทนบริษัทพงษ์สวรรค์ วู๊ดอินดัสตี้ อ้างเป็นเจ้าของสิทธิ์ไม้พะยูงดังกล่าว มาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน บก.ปปป. ให้ดำเนินคดีนายสุรเดช ซึ่งเคยเป็นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมไม้ดังกล่าวในขณะนั้น ได้ติดต่อผู้เสียหายเพื่อเรียกรับเงิน 2 ล้านบาท เป็นค่าดำเนินการส่งไม้คืน
โดยนายสุรเดช นัดรับเงินที่ จ.มุกดาหาร ผู้เสียหายจึงแจ้งชุดจับกุม ก่อนร่วมกันนำเงินสด 2 ล้านบาท ทำตำหนิไว้บนธนบัตร ใส่ถุงพลาสติกหูหิ้ว นำไปให้นายสุรเดช ตามสถานที่นัดหมาย โดยมีเจ้าหน้าที่ร่วมสังเกตการณ์ กระทั่งพบนายสุรเดช พูดคุยกับผู้เสียหายก่อนจะเรียก น.ส.กชพรรณ เข้าไปรับเงินจากผู้เสียหายที่จอดรถรออยู่หน้าร้านกาแฟ ตำรวจจึงแสดงตัวจับกุม
จากการสอบสวนเบื้องต้น นายสุรเดชให้การปฏิเสธ ส่วนน.ส.กชพรรณ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหานายสุรเดช ฐานเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับหรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบด้วยหน้าที่ และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ส่วนน.ส.กชพรรณ แจ้งข้อหา เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน เรียกรับหรือยอมจะรับทรัพย์สินเพื่อประโยชน์โดยมิชอบฯ นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
นายชีวะภาพ กล่าวว่า หลังศาลสั่งให้คืนไม้แก่บริษัท บก.ปทส.จึงประสานกรมป่าไม้ที่เป็นหน่วยงานร่วมตรวจยึด ส่งตัวแทนไปเป็นพยานการส่งคืนไม้ แต่มีผู้อ้างสิทธิ์เข้ามาจนมีการทุจริตดังกล่าว ทั้งนี้ ปลัดกระทรวง ทส.ได้สั่งให้ดำเนินการถึงที่สุดไม่ว่าจะเป็นข้าราชการในระดับใดก็ตาม โดยจะตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย ซึ่งมีโทษร้ายแรงสุดอาจถึงขั้นให้ออกจากราชการ