คดียิงครูเจี๊ยบ-น้องหยอด โยงทุนสีเทาหนุนองค์กรอาชญากรรม ทำงานซับซ้อน-แข็งแกร่ง

วันนี้ (22 พ.ย 66 ) ที่ อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี พลตำรวจตรีธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมกับพลตำรวจตรีวิทวัฒน์ ชินคำ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานกลาง เข้าตรวจสอบรถยนต์ต้องสงสัยในคดีครูเจี๊ยบ และ นักศึกษาอุเทนถวาย ถูกยิงเสียชีวิต เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ในพื้นที่ไทรน้อย จ.นนทบุรี

จากตรวจสอบพบรถยนต์อเนกประสงค์ สีทองสลับฟ้า ที่ถูกนำมาซุกซ่อนในป่าไผ่ ริมถนนโยธาธิการวัดต้นเชือก คลองหนึ่ง อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี จุดนี้พบว่าไม่มีบ้านเรือนประชาชนและไม่มีกล้องวงจรปิดอยู่ในละแวกใกล้เคียง

นายอมรเทพ โกศลเวช นายกองค์การบริหารส่วนตำบลทวีวัฒนา เป็นคนเจอ จึงเกิดความสงสัยจึงแจ้งไปยัง สภ.ไทรน้อย ระบุว่าช่วงเวลา 10.30 น. ของวันที่ 10 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา พบรถคันดังกล่าว ถูกนำจอดทิ้งไว้ ตรวจสอบภายในเห็นแผ่นป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์หนึ่งแผ่น เมื่อสอบถามชาวบ้านไม่มีใครแสดงตัวเป็นเจ้าของรถ จึงไปลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจภูธรไทรน้อย

พลตำรวจตรีธีรเดช เปิดเผยว่า รถที่เจอในวันนี้เป็นรถที่กลุ่มอาชญากรใช้ขนรถจักรยานยนต์คันที่ใช้ขี่สำรวจเส้นทาง และเป็นรถยนต์ที่ใช้รับ-ส่งผู้ร่วมขบวนการ รวมถึงใช้ในการขนอาวุธ ส่วนจักรยานยนต์ที่ผู้ก่อเหตุใช้ พบว่าถูกนำไปเปลี่ยนจากสีแดงเป็นสีน้ำเงิน ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบหาสถานที่เปลี่ยนสีรถ

สำหรับแนวทางการสืบสวน พบว่าคดีนี้มีลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรมที่แข็งแรง การทำงานซับซ้อน โดยมีสมาชิกที่มีอุดมการเดียวกันถึง 84 คน และมีการแต่งตั้งหัวหน้าองค์กร ทางตำรวจมีข้อมูลสำคัญที่จะเชื่อมโยงไปถึงผู้ลงมือก่อเหตุแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้

ส่วนการลงพื้นที่ตรวจค้น 4 จุด ในพื้นที่ กรุงเทพ และ นนทบุรี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งเป็นที่ทำการขององค์กรกลุ่มนี้สามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาที่มีตำแหน่ง เหรัญญิก ทำหน้าที่เก็บรวบรวมเงินสีเทา จากสมาชิก เพื่อนำไปทำกิจกรรมตามอุดมการณ์ขององค์นี้ นอกจากนี้พบว่ายังมีองค์กรในลักษณะคล้ายกับองค์กรนี้อีกหลายกลุ่ม ซึ่งหากครั้งนี้ตำรวจไม่สามารถจับกุมได้ก็จะทำให้องค์กรอื่นเข้มแข็งตามไปด้วย

พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผู้บังคับการกองกลาง เปิดเผยถึงเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพฯ และผู้ต้องหาได้นำรถยนต์มาซุกซ่อนไว้ในพื้นที่ไทรน้อย จ.นนทบุรี ซึ่งจากการตรวจสอบ พบพยานหลักฐานหลายชิ้น อาทิ ซองปืน ที่สามารถเทียบเคียงกับอาวุธที่คนร้ายใช้

โดยซองปืนนี้สามารถใส่ได้ทั้งลูกโม่และแมกกาซีน / ยาแก้ปวด หรือยาเขียวเหลือง สามารถผสมกับน้ำหวาน หรือสามารถผสมเป็น 4100 เป็นยาเสพติดได้ / เสื้อคลุมสีดำ และเสื้อยืด ต้องมีการตรวจสอบอีกครั้งว่าเป็นเสื้อของคนร้ายที่ใส่ในวันก่อเหตุหรือไม่ / ป้ายทะเบียนมอไซ 1 แผ่น ซึ่งกองพิสูจน์หลักฐานจะทำการเก็บหลักฐานทั้งหมด และจะมีการตรวจลายนิ้วมือแฝง คาดรู้ผลไม่เกิน 24 ชม.