โพสต์โดย : Admin เมื่อ 18 ก.ค. 2561 19:33:18 น. เข้าชม 166359 ครั้ง
กลายเป็นเรื่องราวที่ผู้คนเอาใจช่วยกันไปทั่วโลก สำหรับเรื่องราวของทีมหมูป่าทั้ง 13 คน ที่ประสบเหตุไม่คาดฝัน หนีน้ำป่าจนติดอยู่ในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอง จนต้องระดมกู้ภัยมาจากทั่วทุกมุมโลก และอาศัยความร่วมแรงรวมใจกันจากทุกฝ่าย เพื่อช่วยเด็กๆ ออกมาจากถ้ำได้อย่างสำเร็จ โดยหลังจากช่วยเหลือ ดูแลรักษาอาการทางกายและใจ ในวันนี้ (18 ก.ค.) เด็กๆ และโค้ชเอก จะเตรียมตัวกลับบ้าน แต่จะมีการแถลงข่าว ผ่านรายการเดินหน้าประเทศไทย
เมื่อเวลา 18.00 น. ที่ อบจ.เชียงราย ในการแถลงข่าว ผ่านรายการเดินหน้าประเทศไทย ซึ่งเด็กๆ ทีม 13 หมูป่า นำทีมโดย โค้ชเอก โดยเมื่อมีคำถามว่า เข้าไปในถ้ำทำไม โค้ชเอก กล่าวว่า ปรึกษากันมานานแล้วว่าจะเข้าถ้ำหลวง จึงวางแผนไปเตะบอลอุ่นเครื่องบนดอย หลังจากเตะบอลเสร็จจึงพากันไปถ้ำหลวง เพื่อไปศึกษา ส่วนตัวเคยเข้าถ้ำหลวง แต่น้องบางคนไม่เคยเข้า โดยส่วนตัวเคยเข้าไปเลยเนินนมสาว ซึ่งการเข้าไปครั้งนี้พบน้ำบริเวณสามแยก ยืนยันไม่ได้เข้าไปฉลองวันเกิดใครในถ้ำ เพราะน้องไนน์ ที่เข้าไปในถ้ำด้วยต้องกลับบ้านไปเลี้ยงวันเกิดตอน 5 โมงเย็น
“ขณะเข้าไปในถ้ำไปเข้าเลยเนินนมสาว ไปในจุดเมืองลับแลและเมืองบาดาล โดยต้องว่ายน้ำเข้าไป ซึ่งตอนนั้นยังไม่รู้ว่าระดับน้ำเริ่มขึ้น ทุกคนก็ทยอยเข้าไป พอเลยเวลาที่กำหนด จึงมีความคิดเห็นให้กลับ โดยเดินกลับมาปกติ พอมาถึงสามแยกพบว่ามีน้ำสูงขึ้น ก่อนตัวเองจะลงไปเช็กเส้นทาง โดยให้เด็กถือเชือกไว้ พอว่ายน้ำไปพบว่าไปไม่ไหว เนื่องจากระดับน้ำสูงและมีทราย จึงกระตุกเชือก 2 ครั้งให้ดึงกลับเข้ามา ก่อนหาเส้นทางใหม่และช่วยกันขุดร่องระบายน้ำ แต่ระดับน้ำไม่มีทีท่าว่าจะลดลง น้องตี๋จึงเสนอให้ไปทางที่นอนก่อน เพราะเริ่มมืดแล้ว อีกทั้งคิดว่าเป็นแค่น้ำขึ้นน้ำลง โดยตอนนั้นไม่ได้นำอาหารเข้าไป เพราะกินหมดตั้งแต่ซ้อมบอล”โค้ชเอก กล่าว
โค้ชเอก กล่าวว่า หลังจากติด 4-5 วันได้คุยกันเรื่องหาทางออก โดยมีน้อง 2 คนเคยมาเข้าค่ายและรู้ว่ามีทางออกปลายถ้ำ แต่เสี่ยงมาก จึงมาอยู่บริเวณเนินนมสาว โดยมีทางเลือก 2 อย่างคือ รอตรงนี้ และรอเจ้าหน้าที่มาเจอ โดยตอนนั้นพบว่ามีน้ำใหม่ไหลมา จึงให้น้องๆพากันนรีบขึ้นที่สูง จากนั้นไม่ถึง 2 ช.ม.พบว่าน้ำขึ้นเกือบ 3 เมตร โดยไม่ได้ยินเสียงฝนตก ซึ่งตอนนั้นคิดว่ารอให้เจ้าหน้ามาเจออย่างเดียว ก่อนช่วยกันขุดผนังดินข้างถ้ำ โดยใช้วิธีสลับกัน ซึ่งก่อนขุดจะกินน้ำให้อิ่มก่อน โดยจะใช้เวลาขุดทั้งวัน มีบางช่วงน้ำเริ่มตกตะกอนก็เริ่มกินน้ำในถ้ำ
น้องตี๋ กล่าวว่า พอเข้าไปถึงบริเวณเนินทราย ได้ให้น้องๆพักจุดนี้ เพราะมีน้ำหยดลงมาจากหินด้วย โดยคิดว่าอยู่ใกล้แหล่งน้ำดีกว่า ตอนนั้นไม่กลัวอะไร ซึ่งตอนนั้นกินน้ำอย่างเดียวเลย พอผ่านไป 2 วันรู้สึกว่าเริ่มไม่มีแรง โดยมีโค้ชเอกแนะนำให้อยู่เฉยจะได้ไม่หมดแรง และสลับกันใช้ไฟฉาย หลังจากอยู่เกือบ 10 วันทุกคนเริ่มมีอาการอ่อนแรงและหน้ามืด โดยพยายามไม่นึกถึงกลับข้าว เพราะจะทำให้หิว
น้องไนน์ กล่าวว่า ตอนนั้นรู้สึกกลัวที่ออกไม่ได้ และกลัวแม่ด่า แต่ทุกคนก็พยายามใจเย็นและสู้ต่อ