โพสต์โดย : Admin เมื่อ 13 มิ.ย. 2561 16:20:46 น. เข้าชม 166407 ครั้ง
เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครือข่ายโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม สี่อำเภอ ของจังหวัดสงขลา ได้ออกแถลงการณ์ถึงกรณี มีเจ้าหน้าที่แต่งกายชุดสีดำ (ตามภาพจำนวน 15 – 20 คน) และมีอักษรเขียนว่า CSI ที่เสื้อ มาที่โรงเรียนอนุสรณ์เตรียมปัญญา ตำบลท่าม่วง อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา โดยเจ้าหน้าอ้างว่าเข้ามาเพื่อตรวจค้น เพื่อตรวจสอบการทุจริตคอรัปชั่นภายในโรงเรียน เมื่อผู้บริหารโรงเรียนขอดูคำสั่งเขาตรวจค้นโรงเรียนในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้แจ้งอะไร เนื่องจากบอกแต่เพียงว่าคำสั่งทางผู้ว่าราชการจังหวัดยังไม่ได้เซ็นต์
โดยภายในแถลงการณ์ได้ระบุว่า
เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2561 เวลา 9:07-13:40 น โดยประมาณ มีเจ้าหน้าที่นำโดย ร.ท.ชัยยันต์ อำพันแดง ฝ่ายข่าว ฉก. ปัตตานี ร่วมกับ พ.ต.ต.พิทักษ์ ใจสมุทร รอง หน. บก. ฉก. พร้อมเจ้าหน้าที่แต่งกายชุดสีดำ (ตามภาพจำนวน 15 – 20 คน) และมีอักษรเขียนว่า CSI ที่เสื้อ มาที่โรงเรียนอนุสรณ์เตรียมปัญญา ตำบลท่าม่วง อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา ซึ่งในขณะนั้นมีนักเรียนจำนวนมาก (มีนักเรียนอนุบาล และนักเรียนประถมปีที่ 6) มีบุคคากรครูส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและครูผู้ชาย 4 คน เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึง นายอับดลเลาะ แมเราะ ในฐานะผู้บริหารโรงเรียนเชิญเข้าไปในห้องประชุม และกล่าวต้อนรับ หลังจากนั้นก็ให้หัวหน้าคณะที่มาได้บอกถึงวัตถุประสงค์การเข้ามาในครั้งนี้ (หลังจากนั้น นายอับดลเลาะ แมเราะ ขอดูคำสั่งในการเข้ามาตรวจในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้ตอบว่าคำสั่งผู้ว่ายังไม่ได้เซ็นต์)
จากนั้น เจ้าหน้าที่บอกว่า ไปเจอใบเสร็จชื่อโรงเรียน ไปซื้อของร้าน เจ๊ะกูฟาตอนี นายอับดลเลาะ แมเราะ ก็ตอบว่าไม่เคยไป และไม่รู้จักร้านเจ๊ะกูฟาตอนี เจ้าหน้าที่จึงตรวจเอกสารทั้งหมดของโรงเรียน เอกสารการเงิน การเรียนฟรีของนักเรียนอาหารกลางวันและอื่นๆ (สำหรับกรณีใบเสร็จนั้น ได้ถามเจ้าหน้าที่ไปว่าใบเสร็จที่พบซื้อของกับร้านเจ๊ะกูฟาตอนี นายอับดลเลาะ แมเราะ ไปเอาอุปกรณ์อะไร ราคาเท่าไร ขอดูหน่อยได้ไหม ทางเจ้าหน้าที่ตอบว่าไม่มี และได้บอกว่า นายอับดลเลาะ แมเราะเป็นหุ้นส่วน ด้านนายอับดลเลาะ แมเราะ ตอบว่าผมจะเป็นหุ้นส่วอย่างไร เพราะตนไม่ได้เป็นสมาชิก ทำให้โรงเรียนเสียหายและกลายเป็นโรงเรียนเป้าหมายในด้านความมั่งคง ซึ่งส่งผลบุคลากรทุกคนกลัวและไม่สบายใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าว)
จากผลการตรวจค้นโรงเรียนในลักษณะดังกล่าว ทำให้โรงเรียนและบุคคลกรตกเป็นผู้ต้องสงสัยโดยไม่มีกระบวนการที่ถูกต้อง ส่งผลให้ทางโรงเรียนถูกมองจากผู้ปกครองว่ามีการกระทำผิด ผู้ปกครอง ได้โทรมาสอบถามทุกวัน และไม่มีความมั่นใจในโรงเรียน เนื่องจากไม่มีข้อเท็จจริงในข้อกล่าวหาทำให้ทางโรงเรียนไม่สามารถอธิบายทำความเข้าใจให้กับผู้ปกครองให้กระจ่างได้ เจ้าหน้าที่ที่เข้ามาไม่สามารถแสดงหลักฐาน หนังสือหรือทำให้ผู้บริหารโรงเรียนมั่นใจว่าจะถูกดำเนินการจากเจ้าหน้าที่รัฐอย่างเป็นธรรมและปราศจากอคติ การตรวจค้นดังกล่าวอาจเป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของโรงเรียน ขณะเดียวกันนั้นครูและนักเรียนมีความหวาดกลัว เสียขวัญ ครูผู้ชายกังวลถึงความปลอดภัยของตนเอง
จากเหตุการณ์ดังกล่าว รวมทั้งเหตุการณ์ ตรวจค้นโรงเรียนบากงวิทยาและโรงเรียนประสานวิทยา จังหวัดปัตตานีตามที่เป็นข่าวในสื่อไทยและในสื่อต่างประเทศ โดยในบันทึกหลังการตรวจค้นว่า พบว่าใช้อำนาจมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร(ฉบับชั่วคราว)และคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่3/2558 ลง วันที่1 เมษายน 2558 ทำการตรวจค้น/ตรวจยึด เอกกสารเพื่อ สอบการทุจริตโรงเรียน โดยอ้างว่าเป็นเรื่องการแก้ไขปัญหาความมั่นคงในจังหวัดชายแดนใต้ นั้น
โดยทางเครือข่ายโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามสี่อำเภอของจังหวัดสงขลา คือ จะนะ นาทวี เทพาและสะบ้าย้อย ซึ่งอยู่ภายใต้สมาคมโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามจังหวัดสงขลา ขอแสดงจุดยืนและข้อเสนอแนะดังต่อไปนี้
อ่านแถลงการณ์ฉบับเต็มได้ที่นี่
- ขอบคุณที่มา :