เครื่องมือค้นหา
หน้าแรก » รวมข่าวครู ข่าวทั่วไป » เกิดดราม่าเดือด ครูโหดตบบ้องหู ม.5 ทรงผมผิดระเบียบ แม่เด็กโพสต์ลงเฟซบุ๊กโดนครูฟ้อง 3แสน

เกิดดราม่าเดือด ครูโหดตบบ้องหู ม.5 ทรงผมผิดระเบียบ แม่เด็กโพสต์ลงเฟซบุ๊กโดนครูฟ้อง 3แสน

โพสต์โดย : Admin เมื่อ 13 ส.ค. 2563 10:48:34 น. เข้าชม 166283 ครั้ง

 รับทำเว็บโรงเรียน 5900 ใช้งานได้เลย GED  |   IELTS  |   สอบ IELTS  |   สอบ TOEIC  |   CU-BEST  |   CU-TEP  |  
เกิดดราม่าเดือด ครูโหดตบบ้องหู ม.5 ทรงผมผิดระเบียบ แม่เด็กโพสต์ลงเฟซบุ๊กโดนครูฟ้อง 3แสน
แจกฟรีโปรแกรมจัดตารางเรียน แจกฟรีโปรแกรมเช็คชื่อ บันทึกความดี

ดูในรายการ : รวมข่าวครู ข่าวทั่วไป ทั้งหมด

กดติดตาม Facebook และ YouTube ห้องพักครูเพื่อเป็นกำลังใจ
เกิดดราม่าเดือด ครูโหดตบบ้องหู ม.5 ทรงผมผิดระเบียบ แม่เด็กโพสต์ลงเฟซบุ๊กโดนครูฟ้อง 3แสน
วันที่ 13 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้ากรณีที่มีผู้ปกครองรายหนึ่ง โพสต์เฟซบุ๊กร้องเรียนโซเชียลว่า ลูกชายถูกครูในโรงเรียนตบหน้าและบ้องหู คาดว่าสาเหตุเกิด ทรงผมผิดระเบียบ จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียลว่าครูทำเกินกว่าเหตุหรือไม่

ดราม่าเดือด ครูตบบ้องหู ม.5 ทรงผมผิดระเบียบ แม่เด็กโพสต์ลงเฟซบุ๊กโดนครูฟ้อง3แสน

วันที่ 13 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้ากรณีที่มีผู้ปกครองรายหนึ่ง โพสต์เฟซบุ๊กร้องเรียนโซเชียลว่า ลูกชายถูกครูในโรงเรียนตบหน้าและบ้องหู คาดว่าสาเหตุเกิด ทรงผมผิดระเบียบ จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียลว่าครูทำเกินกว่าเหตุหรือไม่

น.ส.อุ่นเรือน (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี ผู้ปกครอง เปิดเผยว่า ลูกชาย อายุ 16 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.5 โรงเรียนแห่งหนึ่ง อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ หลังเกิดเหตุตนได้พาลูกชายไปตรวจร่างกาย เนื่องจากมีอาการหูอื้อ และปากแตก พร้อมกับเข้าลงบันทึกแจ้งความไว้ที่ สภ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ และโพสต์ในเฟชบุ๊ก ก่อนที่ต่อมาจะมีการติดต่อกับผู้บริหารและครูที่ตบบ้องหูและหน้าลูกชาย เพื่อพูดคุยกัน

ซึ่งก่อนหน้านี้ทางครูบอกว่าจะจ่ายเงินทำขวัญให้กับเด็กจำนวน 3,000 บาท แต่อยู่ๆกลับยกเลิกการพูดคุย และบอกว่าจะไม่คุยหรือเจรจาอีกต่อไป เพราะตนไปโพสต์เฟซบุ๊คก่อน และล่าสุดครูคนดังกล่าวได้ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับตนเป็นเงิน 300,000 บาท

น.ส.อุ่นเรือน กล่าวอีกว่า เรื่องดังกล่าวตนอยากขอความเป็นธรรม เนื่องจากกระทำของครูนั้นเป็นการทำที่รุนแรงหรือเกินกว่าเหตุหรือไม่ ซึ่งลูกชายอยู่ชั้น ม.5 ได้ตัดผมรองทรง ซึ่งจริงๆแล้วก็เป็นไปตามที่กระทรวงออกมาอย่างถูกต้อง แต่ถ้าหากผิดระเบียบจริงๆครูก็ไม่น่าจะลงโทษทำรุนแรงโดยการตบเข้าไปหน้าและบ้องหูเด็ก น่าจะตักเตือนก่อน

หรือจะลงโทษโดยการทำทัณฑ์บน ตัดคะแนนความประพฤติหรือทำกิจกรรมเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมก็ได้ ไม่ควรที่จะรุนแรงเช่นนี้ ซึ่งหลังเกิดเหตุนอกจากจะไม่มีการพูดคุยแล้วยังมีการฟ้องร้องครอบครัวของตนที่ถูกกระทำอีกด้วย อย่างไรก็ตามเรื่องดังกล่าวตนได้เข้าขอความเป็นธรรมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว


ขณะที่ นักเรียนชั้น ม.5 กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง โดยเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา ขณะที่ตนเลิกแถว มีครูผู้ชายฝ่ายปกครองเรียกให้ไปหา บอกว่าทรงผมรองทรงที่ตัดอยู่ผิดระเบียบ ให้ไปตัดแก้มาใหม่ ซึ่งตนก็ถามว่าให้แก้เป็นทรงอะไร แต่ครูกลับบอกว่าไม่ต้องมาเถียง และพูดว่าตบนักเรียนก่อนเกษียณดีไหม จากนั้นครูฝ่ายปกครองก็ได้ตบเข้าที่ใบหน้าและหูของตน 1 ครั้ง จนหูเอื้อ หลังเกิดเหตุได้ไปถามผู้อำนวยการโรงเรียนว่าการกระทำดังกล่าวรุนแรงไปหรือไม่ และกลับไปที่บ้านและเล่าเหตุการณ์ให้แม่ฟัง

ด้านครูฝ่ายปกครองโรงเรียน เผยว่า ทางโรงเรียนมีกฎระเบียบกำหนดไว้ชัดเจนว่าเด็กนักเรียนชายจะต้องไว้ผมรองทรง อีกทั้งโรงเรียนมีชื่อเสียงในเรื่องกฎระเบียบ รวมไปถึงด้านวิชาการ มีผลงานด้านการจัดการเรียนการสอนดีเด่น สำหรับวันเกิดเหตุตนเองกำลังคุยกับเด็กนักเรียนหญิงคนหนึ่งอยู่ที่หน้าอาคารเรียน เพราะเด็กนักเรียนหญิงคนนั้นมีปัญหาจึงได้มาขอคำปรึกษาแล้วตนเองก็เห็นนักเรียนคนดังกล่าวพอดี จึงได้เรียกมาเตือนเรื่องทรงผม

ตนบอกว่าทรงผิดระเบียบ เนื่องจากเป็นทรงรากไทรและยาว จึงให้ไปตัดมาใหม่ ซึ่งตนก็บอกเตือนดีๆแต่เด็กกับตอบว่าทำไม เพราะอะไรถึงไว้ผมยาวไม่ได้ ตนจึงตบไปที่หน้าเบาๆไม่ได้รุนแรงอะไร แล้วเด็กก็ยกมืออีกข้างขึ้นมาเหมือนจะต่อยแต่ตนจับเอาไว้ สำหรับการตบหน้าตนเองยอมรับว่าทำจริงแต่ไม่ได้ทำรุนแรงอย่างที่ผู้ปกครองนำไปโพสต์ เพียงแต่เป็นการอบรมสั่งสอนตามหน้าที่ของครูเท่านั้น

ครูฝ่ายปกครองโรงเรียน กล่าวอีกว่า ตนอบรมและสั่งสอนเด็กนักเรียนมาหลายสิบปีแล้ว ไม่เคยมีพฤติกรรมหรือกระทำรุนแรงกับเด็กนักเรียน จะไปถามใครก็ได้ แต่เนื่องจากอยู่ฝ่ายปกครองอาจจะมีการดุว่ากล่าวและเข้มงวดเรื่องกฎระเบียบบ้าง แต่ก็เป็นการหน้าที่ของครู ที่อยากให้นักเรียนมีระเบียบ วินัย เป็นคนดีเท่านั้น ไม่ได้มีอคติหรือเคยลงไม่ลงมือรุนแรงสักครั้ง ซึ่งเรื่องดังกล่าวตนก็ขอความเป็นธรรมกับผู้ปกครองด้วย ควรที่จะพูดคุยกันเสียก่อน ไม่ใช่นำเรื่องราวไปโพสต์ในโลกโซเชียลอย่างนี้

 

- ขอบคุณที่มา : ข่าวสด



☰กดไลค์หรือแชร์ เรื่องนี้ให้เพื่อนรู้ >>>

เว็บไซต์ห้องพักครูดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
กดติดตาม YouTube ห้องพักครูเพื่อเป็นกำลังใจ
แจกฟรีโปรแกรม ปพ.5 ล่าสุด แจกฟรีโปรแกรมเช็คชื่อ บันทึกความดี

เนื้อหาแนะนำ รวมข่าวครู ข่าวทั่วไป


คิดอย่างไรกับเรื่องนี้ ? ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณได้เลย !


วิธีการดาวน์โหลด สือการสอน แผนการสอน

จำหน่ายแผนการสอน ป.1-ม.6 ล่าสุด


หมวดหมู่ : รวมข่าวครู ข่าวทั่วไป

รวมหนังสือเตรียมสอบ





ข่าว ล่าสุด

GED  |   chulatutor  |   สอบ IELTS  |   สอบ TOEIC  |   IELTS  |   TOEIC  |  

ติดตามเรา Facebook