โพสต์โดย : Admin เมื่อ 27 ก.ย. 2561 20:29:26 น. เข้าชม 166435 ครั้ง
จากกรณีที่เมื่อวันก่อน (26 ก.ย.) เจ้าหน้าที่ ตำรวจ สภ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ จับกุม นางสุภาภรณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี ข้าราชการครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนระดับประถมศึกษา แห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.นาโพธิ์ พร้อมสามีคือ นายสุวัฒน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสนามบินแห่งหนึ่ง พร้อมของกลาง ผ้าไหม 21 ผืน, พระพุทธรูป 10 องค์, อาวุธมีดสปาต้า 7 เล่ม, มีดอีโต้ 1 เล่ม, ปืน ขนาด.38 พร้อมกระสุนกว่า 50 นัด, ปืนบีบีกัน 2 กระบอก, สร้อยคอทองคำ 2 เส้น, ตู้เซฟที่มีร่องรอยการถูกงัดแงะและทรัพย์สินมีค่าอื่นๆ อีกเกือบ 20 รายการ รวมมูลค่าทรัพย์สินกว่า 500,000 บาท ตามที่เสนอไปแล้วนั้น
โดยเบื้องต้น ข้าราชการครูชำนาญการพิเศษคนดังกล่าวพร้อมสามี ถูกพนักงานสอบสวน สภ.นาโพธ์ แจ้งข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือรับของโจร และร่วมกันมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”
แต่อย่างไรก็ดี ผู้ก่อเหตุยังคงให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าทรัพย์สินที่ตรวจพบภายในบ้านไม่ได้ขโมยมา ซื้อมาเอง แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจงไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากมีพยานหลักฐานค่อนข้างชัดเจนประกอบกับ มีผู้สียหายหลายรายเดินทางมาดูของกลางที่ สภ.นาโพธิ์ พร้อมยืนยันว่าเป็นทรัพย์สินที่ถูกขโมยไป
ล่าสุด วันที่ 27 ก.ย. นายสมศักดิ์ ชอบทำดี ศึกษาธิการ จ.บุรีรัมย์ มีคำสั่งให้ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 4 “ต้นสังกัด” ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีที่ ครูชำนาญการพิเศษพร้อมสามี ร่วมกันก่อเหตุ ตระเวนลักทรัพย์ ขโมยผ้าไหม ทรัพย์สินมีค่า และครอบครองอาวุธปืน พร้อมเร่งรัดให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว หากผลการสอบข้อเท็จจริงพบว่ากระทำผิดจริง จะดำเนินการตั้งกรรมการสอบเอาผิดทางวินัยตามระเบียบขั้นตอนของทางราชการต่อไป
หากเป็นความผิดไม่ร้ายแรงบทลงโทษก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของสำนักงานเขตต้นสังกัด แต่หากพบว่าเป็นความผิดวินัยร้ายแรง ก็ให้สรุปผลสอบเสนอมายังศึกษาธิการจังหวัด เพื่อตั้งกรรมการพิจารณาโทษวินัยร้ายแรง
ถ้าหลักฐานชัดเจนว่าผิดวินัยร้ายแรง ก็จะต้องถูกลงโทษสถานหนักถึงขั้นไล่ออก หรือปลดออก เพราะถือเป็นการประพฤติชั่วร้ายแรง เนื่องจากเป็นข้าราชการครูซึ่งถือเป็นแม่พิมพ์ของชาติต้องเป็นตัวอย่างที่ดีของสังคม แต่กลับกระทำผิดเสียเอง