เครื่องมือค้นหา
หน้าแรก » รวมข่าวครู ข่าวทั่วไป » โอละพ่ออีกคดี! “ครูสาว”สารภาพกุเรื่องโดนคนร้ายรุมทำร้าย-คัตเตอร์กรีดแขน

โอละพ่ออีกคดี! “ครูสาว”สารภาพกุเรื่องโดนคนร้ายรุมทำร้าย-คัตเตอร์กรีดแขน

โพสต์โดย : Admin เมื่อ 17 พ.ค. 2561 04:39:09 น. เข้าชม 166273 ครั้ง

 รับทำเว็บโรงเรียน 5900 ใช้งานได้เลย GED  |   IELTS  |   สอบ IELTS  |   สอบ TOEIC  |   CU-BEST  |   CU-TEP  |  
โอละพ่ออีกคดี! “ครูสาว”สารภาพกุเรื่องโดนคนร้ายรุมทำร้าย-คัตเตอร์กรีดแขน
แจกฟรีโปรแกรมจัดตารางเรียน แจกฟรีโปรแกรมเช็คชื่อ บันทึกความดี

ดูในรายการ : รวมข่าวครู ข่าวทั่วไป ทั้งหมด

กดติดตาม Facebook และ YouTube ห้องพักครูเพื่อเป็นกำลังใจ
โอละพ่ออีกคดี! “ครูสาว”สารภาพกุเรื่องโดนคนร้ายรุมทำร้าย-คัตเตอร์กรีดแขน
โอละพ่ออีกคดี! “ครูสาว”สารภาพกุเรื่องโดนคนร้ายรุมทำร้าย-คัตเตอร์กรีดแขน

โอละพ่ออีกคดี! “ครูสาว”สารภาพกุเรื่องโดนคนร้ายรุมทำร้าย-คัตเตอร์กรีดแขน

เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 26 กุมภาพันธ์ ที่ตำรวจภูธรภาค 5 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.5, พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง รอง ผบช.ภ.5 และ พล.ต.ต.ชูรัตน์ ปานเหง้า รอง ผบช.ภ.5 ตำรวจภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดย พล.ต.ต.ปรีชา วิมลไชยจิต ผบก.ภ.จว.แม่ฮ่องสอน, พ.ต.อ.รังสิต โลไทยสงค์ รอง ผบก.ภ.จว.แม่ฮ่องสอน, พ.ต.อ.ธนะรัชต์ ซุ่มสวัสดิ์ รอง ผบก.ภ.จว.แม่ฮ่องสอน และ พ.ต.อ.กฤตชัย ทองอยู่ รอง ผบก.ภ.จว.แม่ฮ่องสอน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน พ.ต.อ.ธนพล บินทปัญญา ผกก.สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน, พ.ต.ท.อภิรักษ์ จุ้ยสำราญ รอง ผกก.สส.ฯ, พ.ต.ท.สมศักดิ์ ต๊ะแดง รอง ผกก.ป.ฯ , พ.ต.ท.วรธันย์ เครือจันต๊ะ พงส.(สบ3)ฯ, พ.ต.ท.ธนัญชัย อาจชัยชาญ สวป. ปรท.สว.สส.ฯ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน และสอบสวน สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน

อ่านข่าวเก่า : พบแล้ว ครูสาวหายออกจากบ้าน ลือ!! บาดเจ็บแผลเต็มตัว คาดพัวพันเงินกู้ ตร.เตรียมสอบเพิ่ม

ได้เปิดแถลงข่าว ณ สถานีตำรวจภูธรเมืองแม่ฮ่องสอน โดยผู้ต้องหา คือ น.ส.รุ่งทิวา (หรือครูปุ้ย หรือปุ๋ย) จิตรประนอม อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60/11 ถ.ชำนาญสถิต ต.จองคำ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน จ.แม่ฮ่องสอน ฐานความผิด “แจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย, รู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดอาญาเกิดขึ้น แจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวนว่าได้มีการกระทำความผิด, ทำพยานหลักฐานอันเป็นเท็จเพื่อให้พนักงานสอบสวนเชื่อว่าได้มีความผิดอาญาเกิดขึ้น และแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่ จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารมหาชนหรือเอกสารราชการ”

เหตุเกิดที่ โรงพยาบาลศรีสังวาลย์แม่ฮ่องสอน ถ.สิงหนาทบำรุง ต.จองคำ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน จ.แม่ฮ่องสอน เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ เวลาประมาณ 12.30 น. พฤติการณ์คือ เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ เวลาประมาณ 20.15 น. ได้มีนายอุทิตย์ จิตรประนอม อายุ 54 ปี บิดาของผู้ต้องหา มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนว่า เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ เวลาประมาณ 13.30 น. ผู้ต้องหาซึ่งเป็นบุตรสาวซึ่งเป็นครูประจำโรงเรียนเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน หายออกจากโรงเรียนเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน และไม่สามารถติดต่อได้ สอบถามจากเพื่อนครูได้ความว่า ผู้ต้องหาได้บอกว่าจะไปเอาเงินที่สามีภรรยาคู่หนึ่งที่ได้ยืมจากผู้ต้องหาจำนวนหลักแสน (ไม่ทราบจำนวนที่แน่นอน) บริเวณศาลาริมทางปากทางเข้าบ้านสบสอย ถ.สายเลี่ยงเมือง 128 ต.ปางหมู อ.เมืองแม่ฮ่องสอน จ.แม่ฮ่องสอน นายอุทิตย์ เกรงว่าลูกสาวจะได้รับอันตราย จึงมาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ออกติดตามหาตัวผู้ต้องหาต่อไป

ต่อมาเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ เวลาประมาณ 21.00 น. ร.ต.อ.ทินกร ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนว่า พบตัวผู้ต้องหา ขณะนั้นรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ศรีสังวาลย์แม่ฮ่องสอน เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนได้เข้าไปสอบถามข้อมูล แต่ผู้ต้องหาก็ไม่ได้ให้ความร่วมมือ

จนกระทั่งต่อมาในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ได้สอบสวนปากคำผู้ต้องหาไว้ในบันทึกคำให้การซึ่งให้การว่า เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ เวลาประมาณ 11.40 น. ผู้ต้องหาได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ หมายเลขทะเบียน 1กข-6390 แม่ฮ่องสอน ออกจากโรงเรียนเทศบาลเมืองแม่ฮ่องสอน เพื่อไปเอาเงินจาก น.ส.ออย (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) ที่ศาลาริมทางปากทางเข้าบ้านสบสอย ถ.สายเลี่ยงเมือง 128 ต.ปางหมู อ.เมืองแม่ฮ่องสอน จ.แม่ฮ่องสอน แต่ไม่พบ น.ส.ออยแต่อย่างใด

โดยผู้ต้องหาได้ตามหาน.ส.ออย จนกระทั่งเวลาประมาณ 15.00 น. ก่อนพบกับชายจำนวน 3 คน ขับขี่รถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า แบบแคป สีดำ ไม่ทราบเลขทะเบียน และชายสองคนได้จับตัวผู้ต้องหาไว้ ชายอีกคนหนึ่งใช้มีดคัตเตอร์ กรีดบริเวณแขนทั้งสองข้าง และบริเวณใบหน้า และได้ใช้มือตบหน้า

จากนั้นชายทั้ง 3 คน ก็ขับขี่รถยนต์ออกไปจากบริเวณบ่อขยะที่เกิดเหตุ ส่วนตัวครูปุ้ยถูกทิ้งจนสลบไป ก่อนจะออกจากที่เกิดเหตุ และขอความช่วยเหลือจากเพื่อนครู พร้อมกับพวก ไปรับตัวที่ม่อนสายหมอกรีสอร์ต มาทำการรักษาตัวที่โรงพยาบาลศรีสังวาลย์ โดยไม่มีทรัพย์สินสูญหาย

เมื่อพนักงานสอบสวนสอบถามครูปุ้ยเกี่ยวกับบุคคลที่แจ้งไว้ กลับไม่มีข้อความสนทนาไลน์และหมายเลขโทรศัพท์ของน.ส.ออย ตามที่กล่าวอ้าง ทั้งที่เป็นบุคคลสำคัญที่ได้กู้ยืมเงินจากผู้ต้องหาเป็นเงินจำนวนมากถึง 500,000 บาท อีกทั้งคำให้การของผู้ต้องหาไม่สมเหตุสมผลที่ทำให้เชื่อว่ามีการกระทำความผิดอาญาขึ้นจริง

เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนจึงออกตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ และหาหาข้อมเท็จจริงจนกระทั่งวันที่ 23 กุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาไม่ได้ถูกคนร้ายชายสามคนทำร้ายร่างกายตามที่ได้ให้การไว้ แต่ความจริงแล้วผู้ต้องหาได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปขอเช่าห้องพักที่ปิยะธิดา วิวดอย ซึ่งอยู่ที่ถนนสายเลี่ยงเมือง ต.ปางหมู อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ตั้งแต่วันที่ 19 – 20 กุมภาพันธ์ โดยไม่ได้จ่ายค่าเช่าห้องพัก และได้ทิ้งกระเป๋าสะพายสีดำไว้ให้พนักงานทำความสะอาดของรีสอร์ตดังกล่าวด้วย เมื่อทำการสอบสวนผู้ดูแล และพนักงานทำความสะอาดที่รีสอร์ตให้การยืนยันว่า จดจำตำหนิรูปพรรณ และใบหน้าของผู้ต้องหาได้ และได้อยู่ภายในห้องพักโดยตลอดเวลา

ต่อมาเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ เวลาประมาณ 10.00 น. ผู้ต้องหาได้เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา และได้ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าที่ทำไป เพราะมีปัญหาเรื่องเงิน และหาทางออกไม่ได้ ซึ่งพนักงานสอบสวนจะได้นำตัวส่งฟ้องยังศาลต่อไป

สำหรับคดีที่ผู้ต้องหาไปหลอกลวงชักชวนผู้อื่นให้มาร่วมลงทุนโดยผิดกฎหมาย ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายรวมทั้งสิ้นประมาณ 7 ล้านบาท ทั้งนี้จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาต่อไป และขอให้ประชาชนที่ได้รับความเสียหาย มาแจ้งความที่ สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน เพื่อจะได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาและผู้ที่เกี่ยวข้องให้ถึงที่สุด

พ.ต.อ.กฤตชัย เปิดเผยว่า กรณีผู้ต้องหาที่ปล่อยเงินกู้ และมีลักษณะคล้ายแชร์ลูกโซ่ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอน และชุดสืบสวนภูธรเมืองแม่ฮ่องสอน กำลังแกะรอยเส้นทางการเงินของ ครูปุ้ย อย่างใกล้ชิด ในเบื้องต้นพอทราบแล้ว ว่ามีใครบ้างที่อยู่เบื้องหลังในการปล่อยเงินให้กับผู้ต้องหา ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการขยายผล และรวบรวมพยานหลักฐานในการเอาผิดกับกลุ่มคนดังกล่าว ที่เข้าไปมีส่วนพัวพันกับการปล่อยเงินกู้นอกระบบ และปล่อยกู้ในลักษณะแชร์ลูกโซ่ โดยขณะนี้มีผู้ที่ถูกหลอกลวง เบื้องต้นจำนวน 13 ราย รวมยอดเงิน 7,000,000 บาท และมีผู้เสียหาย เข้ามาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนแล้ว 1 ราย และจะถูกกันเป็นพยานในคดีดังกล่าว ดังนั้นจึงอยากจะวิงวอนให้ผู้ที่รับรับความเสียหาย ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน และ จังหวัดใกล้เคียง ให้รีบเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน โดยเร็ว

 - ขอบคุณที่มา : ข่าวสด


☰กดไลค์หรือแชร์ เรื่องนี้ให้เพื่อนรู้ >>>

เว็บไซต์ห้องพักครูดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
กดติดตาม YouTube ห้องพักครูเพื่อเป็นกำลังใจ
แจกฟรีโปรแกรม ปพ.5 ล่าสุด แจกฟรีโปรแกรมเช็คชื่อ บันทึกความดี

เนื้อหาแนะนำ รวมข่าวครู ข่าวทั่วไป


คิดอย่างไรกับเรื่องนี้ ? ร่วมแสดงความคิดเห็นของคุณได้เลย !


วิธีการดาวน์โหลด สือการสอน แผนการสอน

จำหน่ายแผนการสอน ป.1-ม.6 ล่าสุด


หมวดหมู่ : รวมข่าวครู ข่าวทั่วไป

รวมหนังสือเตรียมสอบ





ข่าว ล่าสุด

GED  |   chulatutor  |   สอบ IELTS  |   สอบ TOEIC  |   IELTS  |   TOEIC  |  

ติดตามเรา Facebook