โพสต์โดย : Admin เมื่อ 16 มี.ค. 2561 11:48:49 น. เข้าชม 166405 ครั้ง
วันที่ 16 มี.ค. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสัมภาษณ์นางปณัญชยา สุขผล หรือเจ๊เกียว แม่ค้าล็อตเตอรี่ หนึ่งในพยานของนายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา กรณีหวย 30 ล้านบาทอลเวง ที่ตั้งแผงขายล็อตเตอรี่อยู่ที่ใต้ต้นไทร วัดไชยชุมพลชนะสงคราม พระอารามหลวง หรือวัดใต้ ต.บ้านใต้ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
ผู้สื่อข่าวถามว่า ยังมีหลักฐานอะไรอีกหรือไม่ที่เราจะเดินหน้าไปร้องเรียน เจ๊เกียวตอบว่า มีค่ะ แต่ยังไม่ตอบ ปล่อยให้เซอร์ไพรส์ไปก่อน ตนจะเรียกร้องความเป็นธรรมให้พยาน จนกว่าผู้ใหญ่แต่ละชุดจะเห็นความเหมาะสม ถ้ากระบวนการเริ่มนับหนึ่งใหม่ได้ก็ดี แต่ก็คงไม่ได้แล้ว เพราะเรื่องถึงศาลทั้งหมดแล้ว ส่วนหากร้องเรียนแล้วไม่เป็นไปตามที่คิด ตนก็ยังจะต่อสู้ต่อไปอีก เราก็ทำตามขั้นตอนของเรา ที่เจ๊เกียวทำในครั้งนี้ก็เพราะว่าเจ๊เกียวมองเห็นพยานทุกคนเดือดร้อนกันหมด เพราะกลายเป็นผู้ต้องหาอันนี้ถือว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม
“หน่วยงานทุกหน่วยงานถ้าจะทำอะไรก็ทำไป เจ๊เกียวไม่ได้พาดพิง เพราะว่าเจ๊เกียวเรียนมาน้อย เจ๊เกียวก็ศึกษาจากคนที่เขาแนะนำ อะไรที่ทำแล้วพวกเราได้รับความเป็นธรรมและปลอดภัย เพราะว่าทุกคนที่มาในเรื่องนี้นั้นบริสุทธิ์ทุกคน”
เมื่อถามว่าทุกคนสงสัยนายแผนที่ไปร้องเรียนหลายที่ ตรงนี้มีใครอยู่เบื้องหลังอีกหรือไม่ เจ๊เกียวตอบว่า เจ๊เกียวก็มีหมู่มีพวก และมาจากเจ๊เกียวทั้งหมด มีหมู่มีพวกที่ต้องการให้เห็นความเป็นธรรม คือคนที่มาช่วยก็อยากเห็นความเป็นจริงประจักษ์ เพราะพวกเราก็โดนเยอะ พวกของเจ๊เกียวมีทุกระดับ มีหลายระดับของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ทั้งหมด คือใครก็แล้วแต่ถึงไม่ใช่ญาติที่ได้แนะนำเจ๊เกียวมาว่าให้ทำตามขั้นตอนอย่างนั้นอย่างนี้ เจ๊เกียวก็ยินดีทำตามเพราะเป็นคำแนะนำที่ดี
ผู้สื่อข่าวถามว่า เจ๊กียวได้คุยกับครูปรีชาแล้วหรือยังเพราะที่ผ่านมารู้สึกจะขาดตอนไป เจ๊เกียวตอบว่า ที่จริงมันก็ไม่ได้ขาดตอน เพราะบางครั้งก็คุยกันทางโทรศัพท์ เช่นก่อนที่ครูปรีชาจะเดินทางไปที่ ปปป.แต่เราต้องเข้าไปคุย จะไม่คุยกันทางโทรศัพท์ จะเข้าไปคุยกันแบบตัวเป็นๆ ซึ่งจะคุยในประเด็นการสอบถามถึงความคืบหน้าของแต่ละคน เพราะบางคนเจ๊เกียวก็ไม่รู้เรื่อง เนื่องจากเจ๊เกียวกำลังทำการค้า การพูดคุยเช่นสอบถามถึงการสอบสวน สำนวน เนื้อหา เราจำเป็นจะต้องมาคุยกันแล้ว เพราะว่าเราอยู่ในคดีเดียวกัน
เจ๊เกียวกล่าวอีกว่า สู้มาขนาดนี้ไม่รู้สึกกลัวอะไร สำหรับงบประมาณค่าใช้จ่าย ก็มีเพียงแค่ค่าการเดินทาง ค่ากินเท่านั้นเอง ไม่ได้มีอะไรมาก ส่วนเรื่องการจัดหาทนายความ ตอนนี้ยัง แต่เมื่อขึ้นศาลศาลก็ต้องใช้อยู่แล้ว
ต่อมาเวลา 11.20 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อายุ 62 ปี ที่บ้านพักเลขที่ 299/110 หมู่บ้านศิริชัย วังสารภี ซ.5 หมู่ 8 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คู่กรณีครูปรีชา โดยเมื่อไปถึงบริเวณป้อมผ่านเข้า-ออก ของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ได้มาพูดคุยกับผู้สื่อข่าว ว่า หมวดจรูญฝากบอกว่าหากมีสื่อมวลชนมาพบ ช่วยแจ้งให้ทราบว่าไม่อยู่บ้าน และหมวดจรูญ พร้อมครอบครัวขับรถยนต์ออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้าแล้ว นอกจากนี้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดยังได้นำจดหมาย ที่เขียนด้วยลายมือให้ผู้สื่อข่าวดูเป็นหลักฐานว่าความจริงที่หมวดจรูญไม่อยู่บ้าน
ขณะเดียวกันพบว่า ที่บ้านพักของหมวดจรูญ มีการนำกระดาษขนาด A4 เขียนข้อความระบุว่า “วันศุกร์ 16/3/61-จันทร์ 19/3/61 ติดธุระจึงไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ครับ” ติดเอาไว้บริเวณประตูหน้าบ้านอีกด้วย โดยข้อความที่ติดเอาไว้นั้น ไม่ได้แจ้งให้ทราบว่า ครอบครัวของหมวดจรูญเดินทางไปทำธุระที่ใด แต่ก็ได้รับการแจ้งทางไลน์กลุ่มของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน เพื่อเยาวชนและสังคม ว่า เจอวันที่ 20 เลยครับ