โพสต์โดย : Admin เมื่อ 29 ธ.ค. 2560 10:56:34 น. เข้าชม 166393 ครั้ง
จากกรณีข้าราชการครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.กาฬสินธุ์ พาลูกสาววัย 19 ปี เข้าร้องทุกข์กับกับมูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ และศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ ว่า ลูกสาวถูกอดีตสามีใหม่ ซึ่งมีตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ใช้โทรศัพท์แอบถ่ายภาพและถ่ายคลิปขณะอาบน้ำ พร้อมกับลวนลามมานานหลายปี จึงได้เข้าร้องเรียนกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 3 หรือสพป.กาฬสินธุ์ เขต 3 และแจ้งความกับตำรวจสภ.กุฉินารายณ์ กระทั่งมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่เรื่องราวได้ผ่านมาเกือบ 7 เดือนแต่ยังไม่คืบหน้า
ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 ธ.ค. ที่สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดกาฬสินธุ์ (ศธจ.กาฬสินธุ์) ข้าราชการครูและลูกสาวผู้เสียหายได้เดินทางเข้าพบนายกิตติพศ พลพิลา ศึกษาธิการ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องราวดังกล่าว และการตั้งคณะกรรมการสอบวินัย หลังจากที่แม่ลูกยังไม่ได้รับการรายงานความคืบหน้ามาเป็นเวลานาน โดยทางศึกษาธิการจังหวัดได้ชี้แจงให้ทราบเกี่ยวกับขั้นตอนในการดำเนินการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งให้คำตอบสองแม่ลูกว่าในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ. 2561 ก็จะสามารถสรุปเรื่องทั้งหมดได้ โดยขณะนี้ยังเป็นขั้นตอนของคณะกรรมการดำเนินการอยู่โดยไม่ละเลย อ่านข่าว : แม่สุดทนแจ้งจับผัวใหม่ เป็นถึง ผอ.โรงเรียน แอบถ่ายลูกสาวอาบน้ำ บอกเอาไว้ช่วยตัวเอง
โดยข้าราชการครู กล่าวว่า วันนี้เป็นการเข้ามาติดตามทวงถามความคืบหน้าของการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงกับผอ.โรงเรียน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและปกป้องศักดิ์ศรีของลูกสาว หลังจากมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบแล้วเวลาผ่านมานานกว่า 7 เดือน แต่ตนและลูกสาวยังไม่ได้รับการแจ้งถึงความคืบหน้า เนื่องจากอดีตพ่อเลี้ยงมีตำแหน่งเป็นถึงผู้อำนวยการโรงเรียน จึงเกรงว่าเรื่องจะเงียบหายไป และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการ เพื่อความเป็นธรรม และต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการอย่างเด็ดขาดด้วย
ด้าน นายกิตติพศ กล่าวว่า ขณะนี้ได้ตั้งกรรมการสอบวินัยขั้นร้ายแรงไปแล้ว และกรรมการก็ได้ลงพื้นที่สอบสวนกรณีความผิดจากพยานแวดล้อมต่างๆ มาจนครบหมดแล้ว ตอนนี้เหลือแต่ประชุมลงความเห็น โดยจะอ้างข้อกฎหมาย เพื่อที่จะนำเสนอต่อคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด หรือ กศจ. คาดว่าในช่วงปลายเดือน ม.ค. 2561 จะสามารถนำเข้าสู่ที่ประชุม และในช่วงเดือน ก.พ. 2561 ก็จะเรียบร้อย
นายกิตติพศ กล่าวต่อว่า ซึ่งทางคณะกรรมการนั้น ได้เร่งดำเนินการให้จนทำการเก็บหลักฐานและรวบรวมมาไว้ทั้งหมดแล้ว แต่การสอบสวนต้องใช้เวลา เพราะต้องสอบพยานหลายคน อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการก็จะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ทั้งผู้ถูกร้องซึ่งเป็นผู้เสียหาย และผู้ถูกร้อง โดยยึดหลักความเป็นจริง ความถูกต้อง ความเป็นธรรม และตรงไปตรงมา แต่ต้องอ้างข้อกฎหมาย ข้อเท็จจริง เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดต่อไป