โพสต์โดย : Admin เมื่อ 12 พ.ค. 2564 02:51:03 น. เข้าชม 166364 ครั้ง
“ตรีนุช” เผย ก.ศึกษาธิการ เปิดเว็บไซต์ “ครูพร้อม” ช่องทางแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ให้ครูเอกชน-รัฐบาลช่วยเหลือกัน เตรียมทยอยฉีดวัคซีนครู 6 แสนคน ก่อนเปิดภาคเรียน ย้ำ อย่าไปพื้นที่เสี่ยง
วันที่ 11 พ.ค. 2564 น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) พร้อมด้วย คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช, นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และผู้บริหารองค์กรหลัก ร่วมแถลงข่าว “ศธ.รวมพลังจัดการศึกษาปลอดภัยใต้วิกฤตโควิดระลอกสาม” จากกรณีที่ ศธ. เลื่อนเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 ของสถานศึกษาในสังกัด เป็นวันที่ 1 มิ.ย. 2564 เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ระลอกสามยังมีความรุนแรง เพื่อไม่ให้เด็กเสียโอกาสในการเรียนรู้ ผู้ปกครองมั่นใจในความปลอดภัยของบุตรหลาน ศธ.จึงเตรียมความพร้อมในการจัดการศึกษา โดยวางแผนการดำเนินงานออกเป็น 2 ระยะ ดังนี้
ระยะที่หนึ่ง ตั้งแต่วันที่ 17-31 พ.ค. 2564 ก่อนเปิดภาคเรียน 11 วันทำการ จะเป็นการเตรียมความพร้อมของทั้งครูและนักเรียน มีการจัดกิจกรรมเสริมความรู้การจัดการเรียนรู้ที่น่าสนใจ เช่น เปิดโอกาสให้เด็กเรียนรู้ถึงทักษะชีวิตที่จำเป็นจากเหตุการณ์ร่วมสมัย จัดการเรียนรู้ของจริง ประสบการณ์จริง เพื่อทำให้การเรียนรู้ของเด็กไทยต่อเนื่องไม่หยุดชะงักลง ซึ่ง ศธ.จะจัดทีมพี่เลี้ยงเพื่อให้คำปรึกษาแก่ครูในการจัดกิจกรรมตามแนวทางดังกล่าว โดยอาจเริ่มจากประเด็นการเรียนรู้ในเรื่องสถานการณ์โควิดเป็นลำดับแรก
ระยะที่สอง ตั้งแต่การเปิดภาคเรียนที่ 1/2564 วันที่ 1 มิ.ย.เป็นต้นไป จะเป็นการจัดการเรียนรู้ 5 รูปแบบ คือ
อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจพบว่า สถานศึกษาส่วนใหญ่จะเน้นการเรียนที่โรงเรียน หรือ On-Site
ในส่วนของการจัดกิจกรรมแบบออนไลน์ ขณะนี้ ศธ.เตรียมจัดทำ Web Portal ขึ้นมาใหม่ เพื่อเสริมแพลตฟอร์มต่างๆ ที่หน่วยงานในสังกัด ศธ.มีอยู่ โดยจะเป็นคลังสื่อ ข้อมูลการเรียนรู้ ตลอดจนรูปแบบการจัดกิจกรรม ซึ่งมีข้อมูลทั้งของสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) แบ่งเป็นหัวข้อ หมวดหมู่ตามความสนใจ ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้เรียนทุกกลุ่ม ครู ผู้บริหาร และผู้ปกครอง สามารถเข้าถึงได้ผ่านระบบกลาง ส่วนกิจกรรมรูปแบบออฟไลน์ สถานศึกษา และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) จะเป็นผู้ออกแบบกิจกรรมร่วมกับ ศบค.จังหวัด ซึ่งคิดขึ้นมาจากเหตุการณ์ร่วมสมัย สิ่งสำคัญคือทุกคนสามารถเลือกหัวข้อหรือกิจกรรมที่ต้องการเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง
ทั้งนี้ ศธ. จะเน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก ซึ่งต้องให้พื้นที่ประเมินร่วมกับ ศบค.จังหวัดว่าพื้นที่นั้นเหมาะสมกับการเรียนรูปแบบใด โดยมีความมั่นใจและรับประกันได้ว่าเมื่อเปิดเทอมแล้วเด็กทุกคนจะได้เรียนอย่างมีคุณภาพ ครบตามที่หลักสูตรกำหนด
ทั้งนี้ น.ส.ตรีนุช กล่าวว่า ศธ. จะรวบรวมองค์ความรู้ต่างๆ ที่เหมาะสม เป็นประโยชน์ จากคุณครูที่มีความรู้ความสามารถ เพื่อเป็นช่องทางการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เกิดเป็นชุมชนออนไลน์เพื่อการเรียนรู้อย่างแท้จริง ผ่านช่องทางที่เชื่อมต่อสู่เว็บไซต์ “ครูพร้อม” เพื่อให้ครูที่พร้อมแล้วได้มาช่วยเหลือแบ่งปันเพื่อนครูด้วยกัน ซึ่งโครงการของครูพร้อม เกิดจากความห่วงใยว่าเมื่อเลื่อนการเปิดเรียนไปเป็นวันที่ 1 มิ.ย.แล้ว ในช่วงเวลา 11 วันทำการก่อนเปิดภาคเรียน ถือเป็นเวลาที่มีค่าที่จะเป็นทางเลือกให้กับครู ผู้ปกครอง นักเรียน มีโอกาสเข้าถึงกระบวนการการเรียนรู้ที่โดยจัดไว้เป็น 2 รูปแบบดังกล่าวทั้ง Online และ On-Site ซึ่งเป็นการบูรณาการโดยหน่วยงานทุกสังกัดของ ศธ. รวบรวมเนื้อหาทุกส่วนที่สำคัญมาไว้ในเว็บไซต์เดียวที่เรียกว่า “ครูพร้อม” ซึ่งมีภาคเอกชนมาร่วมด้วยโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
ส่วนด้าน On-Site ในพื้นที่ อาจเป็นการจัดการเรียนรู้ทักษะชีวิตซึ่งไม่ได้อยู่ในตำรา โดยนำสถานการณ์จริงมาใช้ในการเรียนรู้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Active Learning จำลองกระบวนการการเรียนรู้ให้เป็นรูปแบบของรูปแบบการส่งเสริมหลักสูตรสมรรถนะซึ่งจะมีการใช้ในปีการศึกษาหน้า ถือเป็นการเอาเวลาที่มีอยู่เหล่านี้ มาเตรียมความพร้อมให้กับครูและนักเรียนในเรื่องของการใช้สถานการณ์จริง นักเรียนและผู้ปกครองสามารถร่วมกิจกรรมได้ตามความสมัครใจ ไม่มีการให้คะแนนผ่าน/ไม่ผ่าน แต่อย่างใด
ทางด้าน นายสุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ตอบคำถามถึงความคืบหน้าการเตรียมการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้แก่ครูและบุคลากรทางการศึกษา ว่า ขณะนี้ ศธ.ยังกำหนดให้มีการเปิดภาคเรียนปีการศึกษา 2564 ในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ แต่ยังมีความกังวลเนื่องจาก ศธ. มีนักเรียนนักศึกษาในสังกัดมากกว่า 8 ล้านคน ทำให้ครู บุคลากรทางการศึกษา นักเรียน นักศึกษา เป็นกลุ่มเสี่ยงสูงที่อาจได้รับเชื้อโควิด-19 จึงพยายามผลักดันให้ข้าราชการ ครู และบุคลากรทางการศึกษา ทุกคน ทุกสังกัด ได้เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันก่อนเปิดภาคเรียน เนื่องจากครูต้องใกล้ชิดกับนักเรียนจำนวนมาก และยังเป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ปกครอง เมื่อเปิดภาคเรียนใหม่จะสามารถลดความเสี่ยงของการแพร่เชื้อโควิด-19 ได้ระดับหนึ่ง อีกทั้งยังให้ความมั่นใจได้ว่าโรงเรียนมีมาตรการความปลอดภัยด้านสุขภาพ ซึ่ง ศธ.เสนอมาตรการดังกล่าวให้ ศบค.ชุดเล็กพิจารณา และผ่านการเห็นชอบแล้ว ศธ.กำลังรวบรวมรายชื่อครูทุกอำเภอ ทุกสังกัด ส่งให้กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เพื่อจัดสรรวัคซีนให้ครูทั้ง 6 แสนกว่าคน คาดว่าน่าจะแล้วเสร็จไม่เกินสัปดาห์นี้ เพื่อพร้อมสำหรับการทยอยฉีดให้ทันก่อนการเปิดภาคเรียน
“ขอความร่วมมือทั้งครูและนักเรียนหลีกเลี่ยงการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก หรือไปอยู่ในพื้นที่เสี่ยงโดยไม่มีความจำเป็น เพราะหากครูคนใดคนหนึ่งติดเชื้อจะส่งผลกระทบต่อการจัดการเรียนการสอน และยังเสี่ยงที่จะแพร่เชื้อไปยังเด็กนักเรียนด้วย ขอให้ข้าราชการครูทุกคนได้ปฏิบัติตามมาตรการของรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด”.