โพสต์โดย : Admin เมื่อ 28 ก.พ. 2560 16:15:46 น. เข้าชม 166441 ครั้ง
เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ที่โรงแรมปริ๊นซ์ พาเลซ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวในการเป็นประธานเปิดการประชุมผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ทั่วประเทศ พร้อมมอบนโยบาย และทิศทางการดำเนินงาน ว่า ก่อนอื่นขอแก้กระแสข่าวลือว่าการเรียกประชุมครั้งนี้เพื่อแจ้งคำสั่งมาตรา 44 ยุบเขตพื้นที่การศึกษา ซึ่งยืนยันอีกครั้งว่าไม่จริง แต่ประชุมเพื่อแจ้งทิศทางการปฏิรูปการศึกษาที่สังคมอยากเห็น ทั้งนี้ ตนจะพัฒนาครูอย่างครบวงจร ต่อไปการพัฒนาครูจะเชื่อมโยงกับวิทยฐานะ ซึ่งได้ยกเลิกหลักเกณฑ์การเลื่อนวิทยฐานะตามข้อตกลงในการพัฒนางาน (PA) เพราะพบว่าไม่มีข้อใดกำหนดให้ครูต้องทำผลงานทางวิชาการ สิ่งที่กำหนดไว้คือให้ดูเรื่องการอบรมพัฒนา คุณภาพการสอน ดังนั้น เกณฑ์พีเอจึงไม่สอดคล้องกับวิทยฐานะ โดยเกณฑ์ใหม่จะดูจากชั่วโมงการทำงานของครู มีกรอบคือเป็นครูผู้ช่วย 2 ปี ชำนาญการ 5 ปี ชำนาญการพิเศษ 5 ปี เชี่ยวชาญ 5 ปี และเชี่ยวชาญพิเศษ 5 ปี การจะเสนอขอเลื่อนวิทยฐานะในแต่ละขั้น ครูต้องมีชั่วโมงสอน 800 ชั่วโมงต่อปี พร้อมกับคอร์สอบรมพัฒนาที่ได้รับรองมาตรฐานตามระดับวิทยฐานะ และชั่วโมงการเรียนการสอนแบบ PLC โดยครูต้องมีแฟ้มผลงานของตัวเอง และให้ผู้อำนวยการโรงเรียนเป็นผู้รับรองชั่วโมงการสอนของครู หากพบว่าชั่วโมงการสอนไม่ครบ มีการแจ้งเท็จ จะปรับให้เริ่มนับหนึ่งใหม่ และแจ้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินคดี
“สำหรับงบประมาณที่ใช้ในการพัฒนาครูนั้น มีประมาณ 10,000 ล้านบาท แต่ใช้แบบกระจัดกระจาย ต่อไปการอบรมครูจะใช้เป็นระบบคูปอง โดยให้คูปองกับครู 10,000 บาทต่อคนต่อปี เพื่อเลือกเข้าคอร์สพัฒนาตัวเองให้สอดคล้องกับการเลื่อนวิทยฐานะ ซึ่งปัจจุบันมีครูทั่วประเทศ 400,000 คน จะใช้งบฯ เพียง 4,000 ล้านบาทเท่านั้น ทั้งนี้ จะเร่งจัดทำเกณฑ์ดังกล่าวให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด อย่างไรก็ตาม จะต้องมีบทเฉพาะกาลสำหรับผู้ที่ยื่นเพื่อขอมีหรือเลื่อนวิทยฐานะตามหลักเกณฑ์เก่าด้วย” นพ.ธีระเกียรติกล่าว
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก มติชนออนไลน์ วันที่: 28 ก.พ. 60 เวลา: 15:44 น.
http://www.kroobannok.com/81390