โพสต์โดย : Admin เมื่อ 7 ก.ย. 2560 04:33:33 น. เข้าชม 166412 ครั้ง
เมื่อวันที่ 5 กันยายน ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ว่า ครม.อนุมัติหลักการร่างกฎคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(ก.ค.ศ.) ว่าด้วยการเลื่อนเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสำนักงาน ก.พ. ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
พ.อ.อธิสิทธิ์กล่าวว่า สาระของร่างดังกล่าวเพื่อเป็นการกำหนดให้ยกเลิกกฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการเลื่อนเงินเดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2550 , กำหนดวงเงินงบประมาณและการบริหารวงเงินงบประมาณสำหรับการเลื่อนเงินเดือนในแต่ละรอบการประเมินผลการปฏิบัติราชการ ได้แก่ กำหนดให้ส่วนราชการเลื่อนเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพในสังกัด ครั้งที่ 1 (1 เมษายน) และครั้งที่ 2 (1 ตุลาคม) ภายในวงเงินร้อยละ 3 ของเงินเดือนที่จ่ายให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ณ วันที่ 1 มีนาคม และ 1 กันยายน ตามลำดับ และ กำหนดให้ส่วนราชการบริหารวงเงินในการเลื่อนเงินเดือนในภาพรวมของส่วนราชการหรือเขตพื้นที่การศึกษา ส่วนกำหนดการเลื่อนเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้เลื่อนตามผลงาน คือ ผู้ได้รับเงินเดือนในอัตราเดียวกัน มีผลงานเท่ากัน ควรได้รับเงินเดือนเป็นมูลค่าที่เท่ากัน และผู้ได้รับเงินเดือนใน ต่างอันดับกัน หรือมีผลงานต่างกัน ควรได้รับการเลื่อนเงินเดือนเป็นมูลค่าที่ต่างกัน
และกำหนดกรอบวงเงินในการเลื่อนเงินเดือนรายบุคคลไม่เกินร้อยละ 6 ของฐานในการคำนวณและช่วงเงินเดือนสำหรับการเลื่อนเงินเดือนในแต่ละอันดับของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ และยกเลิกโควตา 2 ขั้น ร้อยละ 15 ของจำนวนคน รวมถึงกำหนดให้ส่วนราชการหรือสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเลื่อนเงินเดือนในอัตราร้อยละที่แตกต่างกันตามคะแนนการประเมินผลการปฏิบัติงาน ภายในกรอบวงเงินรวมร้อยละ 3 และกรอบวงเงินรายบุคคลร้อยละ 6 ในแต่ละรอบการประเมิน โดยจะใช้วิธีการเฉลี่ยให้ข้าราชการแต่ละคนได้รับการเลื่อนเงินเดือนในอัตราที่เท่ากันไม่ได้
“กำหนดการจ่ายค่าตอบแทนตามผลงาน ดังนี้ กำหนดให้เลื่อนเงินเดือนเป็นร้อยละของฐานในการคำนวณที่กำหนดไว้ตามช่วงเงินเดือนในแต่ละอันดับเงินเดือน , กำหนดให้เลื่อนเงินเดือนข้าราชการแต่ละคนเป็นร้อยละเท่าใดจะต้องสอดคล้องกับคะแนนผลการปฏิบัติราชการของข้าราชการผู้นั้น , กำหนดให้ผู้ใดได้รับเงินเดือนขั้นสูงของอันดับเงินเดือนที่ดำรงอยู่ให้ผู้นั้นได้รับค่าตอบแทนพิเศษ โดยเงินค่าตอบแทนพิเศษคิดเป็นร้อยละของฐานในการคำนวณที่กำหนดไว้ตามช่วงเงินเดือนและไม่นำมารวมเป็นเงินเดือนพื้นฐาน
, ยกเลิกหลักการรอการเลื่อนขั้นเงินเดือน กรณีข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาถูกฟ้องคดีอาญาที่เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ราชการและศาลได้ประทับรับฟ้องไว้แล้ว หรือถูกตั้งกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง” พ.อ.อธิสิทธิ์กล่าว
พ.อ.อธิสิทธิ์กล่าวต่อว่าสำหรับกำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และกรณีอื่นๆ ดังนี้ กำหนดให้ผู้จะได้รับการพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือนต้องมีเวลาปฏิบัติราชการไม่น้อยกว่า 4 เดือน ในแต่ละรอบการประเมิน ,กำหนดให้เลื่อนเงินเดือนให้แก่ผู้ได้รับอนุญาตให้ลาไปปฏิบัติงานในองค์การระหว่างประเทศ หรือได้รับอนุญาตให้ลาไปฟื้นฟูสมรรถภาพด้านอาชีพ เนื่องจากราชการเป็นเหตุเมื่อผู้นั้นกลับมาปฏิบัติหน้าที่ราชการ ให้สั่งเลื่อนเงินเดือนได้ไม่เกินร้อยละสามของฐานเงินเดือนข้าราชการผู้นั้นในแต่ละรอบการประเมิน , กรณีข้าราชการเสียชีวิตในระหว่างรอบการประเมิน และปฏิบัติงานไม่น้อยกว่า 4 เดือน ให้ได้รับการพิจารณาเลื่อนเงินเดือนตามผลการปฏิบัติงาน
ขอบคุณภาพและข้อมูล : matichon.co.th