โพสต์โดย : Admin เมื่อ 3 เม.ย. 2560 12:51:49 น. เข้าชม 166471 ครั้ง
จากคดีสะเทือนขวัญเมื่อน.ส.วาสนา บุราคร อายุ 37 ปี เจ้าหน้าที่ระดับซี 4 ถูกยิงเสียชีวิต ภายในคุรุสภา เหตุเกิดช่วงเย็นของวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา ก่อนเจ้าหน้าที่ตามเกาะรอยจนพบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุคือนายจำลอง พุ่มมาลัย อายุ 49 ปี พนักงานขับรถของคุรุสภา โดยหลังก่อเหตุคนร้ายได้หลบหนี
สำหรับความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 3 เม.ย. พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงศ์ปิ่น ผบช.ภ.7 สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามหาเบาะแสของนายจำลอง จนสามารถติดตามจับกุมตัวได้ ก่อนคุมตัวมาสอบสวน โดยการจับกุมครั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้เบาะแสว่านายจำลองหนีไปหลบซ่อนตัวอยู่บ้านญาติของภรรยา ซึ่งเป็นครูโรงเรียนแห่งหนึ่งในจ.อ่างทอง อีกทั้งเพิ่งจดทะเบียนกันในช่วงเช้าและมาก่อเหตุสังหารโหดในช่วงเย็นวันเดียวกัน จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปควบคุมตัวไว้ได้
ต่อมาที่ศูนย์ปฎิบัติการตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่า พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช รองผบช.ภ.7 พ.ต.อ.ไชยา สุนทรกิจ รองผบก.สส.ภ.7 พ.ต.อ.ปรีดา อิ่มเจริญ ผกก.1 บก.สส.ภ.7 พ.ต.ท.ณรงค์ คุ้มภัย สว.สส.กก.1 บก.สส.ภ.7 ร.ต.ท.พิสิทธิ์ สังวาลเดช รองสว.กก1สส.ภ.7 พร้อมกำลังได้ควบคุมตัวนายจำลอง พุ่มมาลัย หรือขาว อายุ 49 ปี ชาวอ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ได้บริเวณกลางทุ่งนา ข้างวัดเขาแก้ว ม.8 ต.องครักษ์ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง พร้อมอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. พร้อมกระสุนปืน 10 นัด ขณะนั่งกางร่มหลบอยู่กลางทุ่งนาสภาพอิดโรย ที่เล็บเท้าทั้งสองข้างเน่า จากการเดินหลบหนี
พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ กล่าวว่า ชุดจับกุมได้รับเบาะแสจากญาติของนายจำลอง จึงได้วางแผนพรางตัวเข้าไปตรวจหาข้อมูล จนพบนายจำลองนั่งหลบซ่อนตัวอยู่กลางทุ่งนา ข้างวัดเขาแก้ว ม.8 ต.องครักษ์ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง ด้วยอาการหวาดระแวง และสภาพร่างกายอิดโรย ชุดจับกุมจึงประสานญาติใกล้ชิดเข้าไปพร้อมตำรวจที่พรางตัวเป็นชาวบ้าน เมื่อนายจำลองพบหน้าญาติคนใกล้ชิดคนดังกล่าวแล้วยอมวางอาวุธปืนลงที่พื้น ก่อนมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่
นายจำลองรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม.ยิงน.ส.วาสนา จนเสียชีวิตบริเวณสนามหญ้าภายในสำนักงานคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา เพราะโกรธแค้นที่น.ส.วาสนาไปแจ้งความที่สน.ดุสิต ว่าตนลักรถบิ๊กไบก์ และมีเรื่องหึงหวงด้วย โดยนายจำลองอ้างว่าไปเจอเบอร์โทรศัพท์ผู้ชายในมือถือของน.ส.วาสนา นอกจากนี้ยังมีปัญหาที่คนตายไม่ยอมทำเรื่องกู้เงินให้ด้วย
“หลังก่อเหตุคิดจะใช้ปืนกระบอกเดียวกันยิงตัวตาย แต่เพื่อนห้ามไว้และเพื่อนพาหลบหนีมาจ.สุพรรณบุรี จากนั้นเดินเท้าไปตามทุ่งนา ป่าเขา ลัดเลาะไปเขตติดต่อจ.กาญจนบุรี อาศัยหลับนอนตามป่าและทุ่งนา ไม่นอนบ้านคน กระทั่งเดินต่อไปที่จ.อ่างทอง และประสานญาติให้ติดต่อตำรวจขอเข้ามอบตัว โดยไม่เคยคิดต่อสู้เจ้าหน้าที่และหากจนมุมจริงๆจะยิงตัวเอง”