โพสต์โดย : Admin เมื่อ 28 ต.ค. 2564 02:29:44 น. เข้าชม 166408 ครั้ง
วันที่ 25 ต.ค.2564 น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยความคืบหน้าการเตรียมพร้อมเปิดภาคเรียนที่ 2 ว่า มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำรวจความพร้อมการเปิดเรียนรูปแบบ On Site ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 วันที่ 1 พ.ย. ของสถานศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ โดยกระทรวงจะแถลงข่าวมาตรการเปิดเทอมในวันที่ 27 ต.ค. โดยมาตรการนั้น กระทรวงศึกษาธิการวางแผนร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ซึ่งจะมีรายละเอียดการเปิดเรียนรูปแบบต่างๆ เพื่อให้สถานศึกษานำไปปฏิบัติตาม
น.ส.ตรีนุช กล่าวต่อว่า ส่วนที่ผู้ปกครองกังวลว่าเมื่อเปิดเทอมแล้ว นักเรียนอายุต่ำกว่า 12 ปี ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนจะปลอดภัยหรือไม่ กระทรวงศึกษาธิการได้หารือกับกระทรวงสาธารณสุขมาตลอด ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขมีความเห็นว่า เด็กเล็กมีความปลอดภัยมากกว่า เพราะไม่ต้องเดินทางมาโรงเรียนเอง เนื่องจากผู้ปกครองมาส่ง อีกทั้งเด็กมีภูมิคุ้มกันที่ดีกว่าผู้ใหญ่
สิ่งที่กระทรวงศึกษาธิการเป็นห่วงและต้องการผลักดันอย่างมากคือ การเร่งให้ครูได้รับวัคซีนให้ได้มากที่สุด เพราะครูเป็นผู้ใกล้ชิดกับนักเรียนที่สุด ดังนั้นการจะเปิดเรียนได้ต้องดูจำนวนครูที่ได้รับวัคซีนด้วย ซึ่งจะมีความชัดเจนมากขึ้นว่าครูแต่ละพื้นที่ โดยเฉพาะครูในพื้นที่สีแดงเข้ม และพื้นที่สีแดง ควรได้รับวัคซีนจำนวนเท่าใดถึงจะสามารถเปิดเรียนในรูปแบบ On Site ได้ ขอให้รอรายละเอียดวันที่ 27 ต.ค.
“ยืนยันว่าในวันที่ 1 พ.ย. เปิดเทอมแน่นอน เพียงแต่ว่าแต่ละพื้นที่จะเปิดเรียนในรูปแบบไหนขึ้นอยู่กับความเสี่ยงของแต่ละพื้นที่ ส่วนความคืบหน้าการฉีดวัคซีน ขณะนี้นักเรียนได้รับวัคซีนมากกว่า 2 ล้านคนแล้ว นอกจากนี้ยังมีผู้ปกครองทยอยแจ้งความประสงค์ให้นักเรียนมาฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่วนครูได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 กว่า 70-80% แล้ว ขณะนี้กระทรวงศึกษาธิการอยู่ระหว่างผลักดันให้ครูได้รับวัคซีนให้ครบทั้ง 2 เข็มให้ได้มากที่สุด” น.ส.ตรีนุช กล่าว
ส่วนที่มีโรงเรียนเอกชนบางแห่งให้ผู้ปกครองซื้อ ATK ตรวจนักเรียนก่อนเปิดภาคเรียน น.ส.ตรีนุช กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการหารือกับกระทรวงสาธารณสุขในประเด็นนี้มาตลอด เบื้องต้นคาดว่าการใช้ ATK อาจไม่ใช่ปัจจัยหลักในการพิจารณาเปิดภาคเรียน แต่จะเน้นจำนวนครูที่ได้รับวัคซีนเป็นหลักมากกว่า ส่วนการใช้ ATK อาจนำมาใช้กรณีพบผู้ติดเชื้อแล้วต้องมาสุ่มตรวจ หรือนำมาใช้ในพื้นที่สุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโควิด อย่างไรก็ตามขอให้รอความชัดเจนอีกครั้ง