โพสต์โดย : Admin เมื่อ 21 ม.ค. 2564 14:04:08 น. เข้าชม 166390 ครั้ง
จากกรณีที่ผู้เป็นแม่โพสต์ข้อความลงสื่อโซเชียล ระบุว่า “ครูตีฝ่ามือเด็กนักเรียน ป.3 เส้นเอ็นฉีกขาด ครูสิเยียวยาให้ 5,000.- แล้วพาไปหาหมอ แฟนครูเพิ่นบอกว่า ถ้าอยากได้หลายกว่านี้กะให้ไปดำเนินเรื่องตามกฏหมายเอา มือข้างขวา ข้างที่น้องถนัด หนูควรเฮดจั่งได๋ดีน้อค้า สอบถามผู้รู้แน่จ้า (รักษาเองมา 5 เดือนแล้ว แต่ยังไม่หาย)” ซึ่งโพสต์ดังกล่าวมีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่บอกว่าคุณครูทำเกินกว่าเหตุ ให้ดำเนินคดีจนถึงที่สุด
ล่าสุดวันนี้ (20 ม.ค. 64) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่บ้านของเด็กนักเรียนหญิงคนดังกล่าว ในพื้นที่ ต.คอแลน อ.บุณฑริก จ.อุบลราชธชานี ได้พบกับหญิงอายุ 45 ปี มีศักดิ์เป็นยายของเด็กหญิงปุ๊ก อายุ 9 ปี นักเรียนโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.บุณฑริก ซึ่งเป็นเด็กหญิงที่ถูกครูประจำชั้นใช้ไม้เรียวตีฝ่ามือจนเส้นเอ็นขาด
ยายของเด็กเล่าว่า เหตุเกิดเมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคม 2563 ตนพบหลานสาวนั่งร้องไห้อยู่ในบ้านจึงสอบถามสาเหตุ หลานสาวยื่นมือให้ดูพร้อมกับบอกว่าถูกครูประจำชั้นตีมือ รู้สึกเจ็บมากและมีอาการปวดบวม เช้าวันรุ่งขึ้นจึงได้โทรศัพท์แจ้งครูที่โรงเรียนและพาหลานสาวไปโรงพยาบาลประจำอำเภอ โดยแพทย์บอกว่าเส้นเอ็นอักเสบและให้ยามากิน ผ่านไปหลายวันหลานก็ยังมีอาการปวดบริเวณที่ถูกตีอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงไปโรงเรียนตามปกติ กระทั่งวันที่ 22 ธ.ค. 63 หลานสาวมีอาการปวดที่บริเวณนิ้วโป้งอย่างรุนแรง ตนจึงพาไปที่โรงพยาบาลเดิมอีกครั้งพร้อมกับขอให้แพทย์ทำใบส่งตัวไปตรวจที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี ครั้งนี้แพทย์วินิจฉัยว่าเอ็นนิ้วโป้งมือขวา ฉีกขาดพร้อมกับออกใบรับรองแพทย์ไว้ให้เป็นหลักฐาน
หลังจากนั้นตนจึงโทรศัพท์แจ้งให้ทางโรงเรียนทราบ ซึ่งทางโรงเรียนก็มาพูดคุยขอโทษพร้อมทั้งผูกแขนทำขวัญให้หลานสาวจำนวน 1,000 บาท แต่ทางลูกสาวที่เป็นแม่ของน้องปุ๊กขอเรียกค่าทำขวัญ 300,000 – 400,000 บาท ส่วนการรักษานั้นจะรักษากันเอง ขณะที่ฝั่งสามีของครูผู้ก่อเหตุบอกว่าจะให้เงินแค่ 5,000 บาท ถ้าอยากได้มากกว่านั้นให้ไปฟ้องเอา ทำให้ครอบครัวของตนรู้สึกไม่ดีเพราะหลานสาวก็เจ็บตัวแล้วยังต้องเจอคำพูดแบบนี้อีก
ด้านครูประจำชั้นหญิงอายุ 38 ปี เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุเป็นช่วงเปิดเรียนใหม่มีการให้นักเรียนจัดโต๊ะเว้นระยะห่าง แต่น้องปุ๊กยังไม่ทำตาม จึงทำโทษด้วยการตีที่ฝ่ามือไป 1 ครั้ง ไม่ได้ใช้ไม้เรียวใหญ่ และไม่ได้ตีแรง ไม่ได้ตั้งใจให้น้องเจ็บขนาดนั้น พอทราบว่าน้องมือบวม ตนก็ได้ไปหาน้องที่บ้านพร้อมทั้งขอโทษคุณยายของน้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากนั้นน้องก็ยังมาเรียนตามปกติ มือหายบวมแล้ว เรียน เขียน ทำกิจกรรมได้ตามปกติ ตนก็สบายใจคิดว่าน้องคงไม่เป็นอะไรแล้ว
อย่างไรก็ตามระยะเวลาที่ตนตีเด็กจนถึงวันที่ใบรับรองแพทย์ออกมาเดือนธันวาคม มีระยะเวลาเกือบ 6 เดือน อาการบาดเจ็บยังไม่แน่ชัดว่าเส้นเอ็นฉีกขาดเกิดจากการที่ถูกตี หรือเพราะสาเหตุใด จึงอยากขอความเป็นธรรมด้วย ตนยอมรับในส่วนที่ตีและพร้อมรับผิดชอบในเรื่องค่ารักษาพยาบาล
ด้านผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าว เปิดเผยว่า หลังจากทราบเรื่องทางโรงเรียนไม่ได้นิ่งนอนใจ พาคณะครูเข้าไปเยี่ยมพูดคุยผูกแขนตามประเพณีของทางอีสาน ทำความเข้าใจกันหลายรอบแล้ว ล่าสุดฝ่ายผู้ปกครองเรียกค่าทำขวัญเป็นหลักแสน ครูเองก็ไม่มีความสามารถที่จะจ่ายได้ขนาดนั้น จึงได้มีข้อตกลงยุติกันว่าทางครูจะพานักเรียนไปรักษากับโรงพยาบาลเอกชนที่ดีที่สุดของอุบลราชธานี กับแพทย์ที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้านว่าสาเหตุเกิดจากอะไรและจะรักษาอย่างไร ส่วนเรื่องค่าทำขวัญค่อยคุยกันอีกครั้ง ซึ่งประเด็นเรื่องเงิน 5,000 บาท เป็นเพียงส่วนหนึ่งในการพูดคุยช่วงทำความเข้าใจกับผู้ปกครอง ไม่ใช่ข้อยุติทั้งหมดและจากภาพที่ปรากฎในโลกออนไลน์นั้นเป็นภาพเก่าเมื่อเดือนธันวาคม ไม่ใช่ภาพปัจจุบัน