โพสต์โดย : Admin เมื่อ 2 เม.ย. 2560 01:57:34 น. เข้าชม 166457 ครั้ง
เมื่อวันที่ 1 เม.ย. พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1.บก.ป.พ.ต.ท.รัชภูมิ กุสุมาลย์ รองผกก.1.บก.ป. พ.ต.ท.กิตติเมศร์ โชติปิติเจริญรัฐ สว.กก.1.บก.ป. พร้อมกำลังเข้าจับกุมนายสุรพล งามทรัพย์พานิช อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29/93 ถนนศาลา-บางภาษี ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม ในข้อหาร่วมกันใช้หรืออ้างเอกสารราชการปลอมและร่วมกันฉ้อโกง ได้ที่หน้าบ้านพักผู้ต้องหา
สืบเนื่องเมื่อประมาณกลางเดือนที่ผ่านมา พ.ต.ท.กิตติเมศร์ได้รับแจ้งจากนายเพชรปัญญา เจือนำหอม ผู้เสียหายว่า ถูกนายสุรพลซึ่งรู้จักกันในเว็บไซต์ประกาศรับสมัครผู้ที่ต้องการเรียนหลักสูตรเรียนลัด เพื่อนำวุฒิการศึกษาไปทำงาน มีตั้งแต่ระดับ ปวช. ปวส. ม.3 หรือ ม.6 ผู้เสียหายหลงเชื่อติดต่อไปพบนายสุรพล ที่เรียกตัวเองว่าครู บอกขั้นตอนแรกสมัครต้องมีค่าใช้จ่ายเป็นค่าข้อสอบวัดความรู้ 3,000 บาท เมื่อจ่ายเงินแล้วจะได้ข้อสอบไปทำ จากนั้นจะนัดผู้เสียหายไปสอบ ที่ บริษัท ทีโอที แถวแจ้งวัฒนะ มีผู้ร่วมสอบด้วยประมาณ 20 คน หลังจากสอบเสร็จต้องโอนเงินมาเป็นค่าจบการศึกษาอีก 6,000 บาท แล้วจึงได้ใบประกาศวุฒิการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ของ โรงเรียนแห่งหนึ่ง ในจ.หนองคาย
หลังจากนั้นผู้เสียหายนำวุฒิการศึกษาไปสมัครเรียนที่ มหาวิทยาลัยย่านรังสิตหลังจากเข้าเรียนได้ปีเศษ ทางมหาวิทยาลัยสอบถามไปที่โรงเรียนที่ออกวุฒิการศึกษา ก็เลยทราบว่าไม่ได้เป็นผู้ออกวุฒิการศึกษาให้ ผู้เสียหายจึงถูกเชิญออก เพราะใช้วุฒิการศึกษาปลอมมาสมัคร จึงเข้ามาแจ้งความ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้วางแผนจับกุม โดยติดต่อขอวุฒิการศึกษาม.6 ผู้ต้องหาบอกว่าไม่มีการสอบแล้ว ถ้าต้องการจริงต้องเสียเงิน 40,000 บาท จะได้วุฒิการศึกษาม.6. ทันที จึงนัดหมายกันไปพบที่บ้านผู้ต้องหา ก่อนแสดงตัวจับกุมเอาไว้ได้
สอบสวนนายสุรพล ให้การรับสารภาพ ทำมาได้ 6-7 ปี แล้ว โดยตนเป็นผู้ติดต่อกับผู้เสียหาย ส่วนเงินค่าดำเนินการให้โอนเงินเข้าบัญชีของภรรยา หลังได้รายชื่อผู้ที่ต้องการวุฒิการศึกษา จะส่งไปให้นางเอื้อง ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง เป็นคนทำวุฒิบัตรปลอมส่งมาให้ตน นำไปให้ผู้เสียหายอีกทีได้ค่าดำเนินการคนละครึ่ง ส่วนที่ไปจัดสอบในบริษัท ทีโอที ถ.แจ้งวัฒนะ เป็นการไปเช่าสถานที่เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือเท่านั้น
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อคำให้การทั้งหมด ขณะนี้กำลังขยายผลหาตัวผู้ต้องหาที่เหลือ มาดำเนินคดีต่อไปแล้ว