โพสต์โดย : Admin เมื่อ 26 เม.ย. 2561 08:50:22 น. เข้าชม 166450 ครั้ง
ระยะห่างของบ้านกับโรงเรียน
ปัญหาที่มีในเด็กนักเรียนทั่วโลก
ในทุก ๆ
ปีเรามักจะได้ยินข่าวคราวเกี่ยวกับการดั้นด้นเดินทางเป็นระยะทางนับสิบกิโลเมตรของเด็ก
ๆ เพื่อไปเรียนหนังสือที่โรงเรียน
ส่วนมากเราก็จะได้ยินข่าวในลักษณะนี้เกิดขึ้นกับประเทศในแถบเอเชีย อเมริกากลาง
แอฟริกา โดยในครั้งนี้เราจะโฟกัสไปที่ฟิลิปปินส์ อินเดีย ไทย
หรือว่าประเทศยักษ์ใหญ่อย่างจีน ที่แม้จะมีขนาดเมืองที่ใหญ่
มีการเจริญเติบโตของเมืองอย่างก้าวกระโดด
แต่ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมและการเข้าถึงการศึกษาชองเด็ก ๆ
ในแถบชนบทยังเป็นเรื่องที่ยากที่จะแก้ปัญหา
ก่อนหน้านี้ที่ฟิลิปปินส์
หลายคนคงเคยได้ยินข่าวเด็กนักเรียนต้องออกแรงว่ายน้ำในตอนเช้าในบางจุดที่อยู่ระหว่างทาง
เพื่อไปที่โรงเรียน ซึ่งแม่ของเด็กเหล่านั้นบอกกับผู้สื่อข่าวว่า กระเป๋า สมุด
และกระดาษของพวกเขามักจะเปียกอยู่เป็นประจำ ถ้าหากวันไหนไม่ได้หาถุงพลาสติกเตรียมไว้ห่อแล้วล่ะก็
พอถึงเวลาที่เด็ก ๆ
กลับมาที่บ้านก็เป็นอันต้องเอาของพวกนั้นไปแขวนทิ้งไว้จนกว่าจะแห้ง
มีเด็กจำนวนไม่น้อยที่ฟิลิปปินส์
ที่พวกเขาเรียนไม่จบเพราะปัญหาการเดินทางที่ยากลำบากในแต่ละวัน
เป็นเรื่องปกติที่เด็ก ๆ ไม่สามารถไปเรียนได้ทุกวันในแต่ละเทอม
ซึ่งมันเป็นเรื่องที่น่าเศร้าสำหรับเด็ก ๆ และครอบครัวของพวกเขา
ผู้ปกครองล้วนอยากให้เด็กได้เรียนหนังสือ
เพราะนั่นคืออนาคตที่สำคัญกับชีวิตของตัวเขาเอง แต่อย่างน้อย ๆ
ก็มีข่าวดีอยู่บ้างก็คือเด็กเหล่านี้ได้รับการช่วยเหลือ โดยมีการบริจาคเรือพาย
เพื่อไม่ให้เด็ก ๆ ต้องว่ายน้ำไป-กลับ
หรือเอาหินไปเล่นเกมส์ยิงปลาในช่วงที่ฝนตกหนัก ซึ่งลำบากในการเดินทาง
อีกทั้งเสี่ยงต่อความปลอดภัยเหมือนเมื่อก่อน
ที่อินเดีย
มีเด็กนักเรียนต้องใช้เวลาเดินเท้าไปโรงเรียนไป-กลับเป็นระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตร แน่นอนว่าส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยตรง
ต้องเหนื่อยกับการเดินทางในแต่ละวัน จนส่งผลให้เกิดอาการล้าจากการเดินทาง
และทำให้ไม่สามารถไปเรียนได้ทุกวัน
ซึ่งในประเทศจีนรวมไปถึงที่ไทยก็มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นด้วยเช่นกัน
ไม่ทราบว่าที่จีนมีการแก้ปัญหาในเรื่องนี้อย่างไร แต่ที่ไทยเคยมีเหตุการณ์แบบนี้
และแก้ปัญหาโดยการให้เด็กได้เข้ามาพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้โรงเรียนมากขึ้น
ซึ่งก็ถือเป็นวิธีการที่ช่วยแก้ปัญหาได้ดีในระดับนึง
แต่เมื่อมองที่ภาพกว้างกว่านั้นจะพบว่า
ปัญหาที่เกิดขึ้น
ส่วนหนึ่งมาจากจำนวนโรงเรียนและบุคลากรครูที่ยังคงขาดแคลนในหลายพื้นที่
มีจำนวนไม่เพียงพอ และไม่ใช่แค่ที่ไทยเท่านั้น ยังมีอีกหลายแห่งบนโลกที่ประสบปัญหาที่ว่านี้
แล้วก็ดูเหมือนว่าจะยังคงมีเรื่องแบบนี้ต่อไป เพราะการแก้ปัญหาส่วนใหญ่ที่ใช้
เพียงแค่ช่วยบรรเทาทุกข์มากกว่าจะเป็นการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน