“ครูปรีชา”ไม่หวั่น “เจ๊บ้าบิ่น-เจ๊พัช”ถูกเค้นสอบมาราธอน! ซัด”คน-เพจ”สร้างข่าวมอมเมาปชช.

จากกรณีพล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) พร้อมเจ้าหน้าที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้เชิญตัวนางรัตนาภรณ์ สุภาทิพย์ หรือ เจ้บ้าบิ่น, นายแผน คนขับรถให้กับธนาคารแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นพยานที่อ้างว่าได้ยินเสียงคนตะโกนถามว่าใครทำลอตเตอรี่หล่น และเมื่อมองไปก็พบว่าเห็น ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อายุ 62 ปี อดีตข้าราชเกษียณตำรวจ คู่กรณีของนายปรีชา ใคร่ครวญ อายุ 50 ปี ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนเทพมงคลรังษี ถือลอตเตอรี่อยู่ รวมทั้งน.ส.พัชริดา พรมตา หรือเจ้พัช แม่ค้าที่ขายลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ให้กับเจ้บ้าบิ่น ไปสอบสวนปากคำที่ศูนย์ซักถาม สถานีตำรวจทางหลวง 6 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง (กาญจนบุรี) ต.บ้านทวน อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี ตั้งแต่เวลา 12.30 น.ของวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา

ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 ก.พ. ที่โรงเรียนเทพมงคลรังษี นายปรีชาได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าวว่า โดยส่วนตัวไม่ได้รู้สึกหวั่นวิตกอะไรกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะทั้งเจ๊บ้าบิ่นและเจ๊พัช รวมถึงตัวของตนเองนั้น เป็นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ซื้อขายลอตเตอรี่จริง ซึ่งตนเป็นคนซื้อและแม่ค้าทั้งสองคนก็อยู่ในเหตุการณ์จริง ต่อให้ถูกสอบเค้นถามยังไง ความจริงก็คือความจริง ส่วนที่ผบช.ก.ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า คดีนี้ใกล้ที่จะได้ข้อสรุปแล้วนั้น ตนเห็นว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะสังคมจะได้รับรู้ความจริงที่เกิดขึ้น

นายปรีชา กล่าวต่อว่า โดยแม้ว่าตำรวจสอบสวนกลางจะสรุปผลคดีออกมาอย่างไร คดีนี้ก็ยังคงต้องไปต่อสู้กันในชั้นศาลอยู่ดี ตนจึงไม่มีความหนักใจแต่อย่างใด เพราะตนมั่นใจในพยานหลักฐาน ทั้งพยานบุคคลและหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ตนมีอยู่ ว่าจะสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเองได้ เหมือนอย่างที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เคยเข้ามาทำคดีนี้และสรุปผลคดีว่า ตนเป็นเจ้าของลอตเตอรี่ที่แท้จริง ซึ่งถือเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่าพยานหลักฐานที่ฝ่ายตนมีสามารถพิสูจน์ความจริงได้

นายปรีชา กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่มีบุคคลหรือแฟนเพจเฟซบุ๊กบางเพจออกข่าวว่า เจ๊บ้าบิ่นรับสารภาพว่าไม่ได้ขายลอตเตอรี่ให้ตนจริง แถมยังออกมาท้าทายว่าลงเงินพนันว่าตนต้องถูกจับกุมดำเนินคดีนั้น ตนอยากฝากถึงเพจพวกนี้ว่า เพจเหล่านี้ถือเป็นเพจที่สร้างข่าวขึ้นมามอมเมาประชาชน คอยชักจูงประชาชนให้หลงเชื่อและคล้อยตาม ทั้งที่เพจพวกนี้ก็ไม่ได้เป็นศาลหรือมีหน้าที่มาตัดสินพิพากษาใคร แต่กลับมาทำหน้าที่ชี้ผิดชี้ถูกในสังคม ตราหน้าว่าตนเป็นคนผิด ทั้งที่ศาลเพิ่งจะเริ่มกระบวนการเท่านั้น

“ตนจึงอยากฝากถึงประชาชนที่ติดตามข่าวสาร โดยเฉพาะจากเพจพวกนี้ ควรใช้สติและวิจารณญาณในการเสพข่าว รวมถึงรอให้ศาลมีการตัดสินพิพากษาออกมาว่าใครถูกใครผิด จึงค่อยด่าว่าหรือตัดสินใคร เพราะเมื่อถึงกระบวนการตรงนั้น ตนก็พร้อมและยินดีที่จะยอมรับในคำตัดสิน ไม่ว่าจะออกมาดีหรือไม่ดีเพียงใด” ครูปรีชา กล่าว

- ขอบคุณที่มา :