สมาชิกพันทิป  เล่าเรื่องราวของตนเอง และขอความช่วยเหลือเกี่ยวกับแฟนสาวที่กำลังจะถูกไล่ออกจากโรงเรียน  งานนี้หลายฝ่ายคิดว่า โรงเรียนทำเกินกว่าเหตุ แต่บางส่วนคิดต่างว่า  มองในแง่ดีก็ถือว่าครูบาอาจารย์ท่านหวังดี คุณกับแฟนน่าจะอดทนรอเวลาอีก 1 ปีเท่านั้น?

******************************************

ก็ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านและช่วยคอมเม้นนะคับ เรื่องนี้เป็นเรื่องของผมเอง เรื่องมันเกิดขึ้นมาประมาณ3อาทิตย์แล้วคับ

เรื่องมีอยู่ว่า ตัวผม อายุ23 ประกอบอาชีพเปิดร้านคอมเป็นของตัวเอง ครอบครัวแม่เป็น อสม. ฐานะทางบ้านปลานกลางแฟนผม อายุ17 เรียนอยู่ชั้น ม.5 คือผมกับแฟนก็เจอกันที่ร้านนี้เหละคับและก็ใช้เวลาเล่นเกมส์ด้วยกันจนในที่สุดเราก็ตกลงคบกัน(เหมือนคู้อื่นปกตินะคับ เดียวผมพิมพ์น้อยก็จะคิดว่ามันเร็ว) เราก็คบแบบปกติไปเรื่อยๆ จนมาวันนึกแม่ของแฟนผมต้องไปทำงานอยู่ต่างจังหวัดแบบถาวร แฟนผมจึงต้องอยู่คนเดียว อันนี้ไม่เป็นปัญหา แต่ต่อมา ลุงที่เป็นญาติ ของแฟนจะต้องเข้ามาอยู่ในบ้านด้วยซึ่งบอกก่อนเลยว่าลุงคนนี้แกไม่ค่อยปกติ ตอนเด็กแฟนผมเห็นว่าลุงชอบเล่นกับเด็กๆแบบลามกหลายครั้ง(ผมเห็นหน้าลุงแล้วออกแนวโลกจิตมาก)

ผมเป็นห่วงแฟนผมมากคับ ผมเลยปรึกษากับทางครอบครัวของผมว่าจะเอาแฟนผมมาดูแลที่บ้าน ครอบครัวผมประกอบไปด้วย พ่อ.แม่.พี่สาว.ตัวผม.น้องชาย ป.6 และหลาน ป.4 ฝั่งผมก็okแล้วผมก็ไปปรึกษากับทางแม่ของแฟน ทางโน้นก็okคับ ผมก็เลยรับแฟนมาอยู่ที่บ้านด้วย แฟนผมมาอยู่ด้วยก็ช่วยกันทำงานต่างๆเลยคับ(แฟนผมเป็นเด็กเรียนเก่งคับ)เช้าตรู่ก็มาช่วยแม่ทำกับข้าว ช่วงน้องและหลานแต่ตัว ช่วยแม่เตรียมของไปขาย(แม่ผมขายส้มตำกับน้ำปั้นอยู่ใน รร ที่แฟนผมเรียนคับ) ตกพักเที่ยงก็ลงมาช่วยแม่ขายของ(อันนี้ทุกคนเห็นหมดคับครูก็เห็นว่าช่วยขายของจริง)

ตกเย็นก็มีมาช่วยผมดูร้านคอม ชีวิตก็okแหละคับ อยู่ได้สักระยะแม่ก็บอกว่าจะทำให้แฟนผมเข้ามาอยู่อย่างถูกต้องคือแม่ผมฝันเป็นปู่ย่าตายาย มาบอกว่าต้องทำพิธีให้เข้ามาอยู่แบบถูกต้อง(ความเชื่อแบบคนเหนือ)ผมก็ไม่มีปัญหาคับตรงนี้คือเริ่มมีชาวบ้านพูดประมาณว่านี้ใครแล้วมาอยู่บ้านนี้ได้ยังไง อะไรประมาณนี้ แม่ผมเลยจัดพิธี สู่ขวัญแบบมัดมือ(อารมณ์แบบหมั้นกัน)งานผมจัดไม่ใหญ่คับคนประมาณ20คนมาเฉพาะญาติของผมกับแฟน ไม่ได้ประกาศไห้ใครรู้มีแค่คนที่เกี่ยวข้องขนาดญาติบางคนยังมาไม่ทันเลยคับ หลังจากนั้นผมก็สบายใจกันทั้ง2ฝ่ายคับทุกอย่างถูกต้องหมดแล้ว

และแล้ว1อาทิตให้หลังแฟนผมก็ไป รร ปกติก็มีครูฝ่ายปกครองมาพูดว่าถ้าหมั้นแล้ว รร จะไห้ออก (งง!! แฟนเอามาบอก งง ทุกคน) ตอนแรกผมคิดว่าไม่ร้านแรง อีกวันครูก็ยังพูด ผมเลยเข้า Google มาหาข้อมูล เจอประมาณ3 เคส ที่เป็นประมาณนี้ ผมไล่อ่านๆดูก็คล้ายกันมาก(เฉพาะ รร ต่างจังหวัด) แล้วหลังจากนั้น1อาทิตย์แฟนผมก็โดนเรียกผู้ปกครองคับ เป็นแม่กับพี่สาวผมไป(แม่ของแฟนทำงานต่างจังหวัด) พี่บอกว่าตอนแรกเข้าไปครูก็จะไห้ออกอย่างเดียว ก็คุยกันไปสักพักฝั่งผมก็เล่าไห้ฟัง ครูเข้าก็เปลี่ยนไปบ้างกลายเป็นเหลือทางเลือกคือ จะออกหรือย้ายเข้ามาอยู่หอพักโรงเรียน ต้องบอกก่อนเลยว่ากอพัก รร นี้เป็นหอรวม ผญ มีประมาน5-6คน เป็นชาวเขาหมดคับบ้านไกล และมีหอชายด้วย กฎของหอพักคือกลับบ้านได้แค่เสาร์อาทิตย์

แล้วครูเขาจะเอาเรื่องนี้ไปประชุมอีกที  กลับมาที่ฝั่งผม แฟนผมบอกว่าอยู่ไม่ไหว ผมก็เข้าใจอยู่คับ แต่มีครู ผญ บอกว่ากลับไปอยู่บ้านแล้วไห้พี่น้องช่วยกันดูแลดีกว่า ผมวันมันดูokกว่าคับ ผ่านไป1อาทิตย์ คือวันนี้คับ 20/7/2560 ครูก็โทรไปคุยกับแม่แฟนผมแล้ว และเรียกน้าแฟนผมไปคุย ได้บทสรุปว่า (รู้สึกจะออกมาจากปาก ผอ)ถ้ากลับไปอยู่บ้านห้ามเล่นเกม ห้ามมาร้านเกม(บ้านผม) ให้ตัดขาดกันไปเลย ถ้าทำไม่ได้ก็ออก รร ไป ผมนี้เครียดเลยคับ ไม่คิดว่า รร จะทำขนาดนี้ ทางน้าแฟนผมก็ต้องเออ ออ ตกลงไป นี้เย็นนี้ก็ต้องยายของกลับไปบ้านแล้วคับ

   ปล.ไม่มีเรื่องท้องในวัยเรียน หรืออะไร ไม่ได้ไปประกาศให้ชื่อเสียง รร เสียหาย ทำกันขนาดนี้มันเกินไปไหมคับเอาเวลาไปดูแลพวกเด็ก นักเลงตีกัน หรือพวกเสพยาดูดบุหรี่ไม่ดีกว่าเหรอคับ ของผมก็ทำถูกอย่างเปิดเผย ตาทำเนียม ไม่ได้หลบๆซ่อนๆทั้งนี้ผมก็อยากขอความช่วยเหลื่อจากทุกท่านด้วยคับ เดียวผมจะโทรไปกระทรวงศึกษาดูก่อนคับได้ยังไงเดียวมาบอกอีกที      รร อยู่แถวๆ อ.ขุนตาล จ.เชียงรายคับ

เพื่ม.... ผมโทรไป 1579 กระทรวงศีกษาแล้วนะคับ เป็นผู้ชายรับสาย ผมก็ปรึกษาไปว่า รร ใช้อำนาจขนาดนี้ได้เหรอ เขาบอกว่าได้คับแล้วการพูดของเขาเหมือนไม่สนใจเราเลยจะพูดแค่ รร ดี รร ถูกต้อง ไม่เหมือนคนที่จะปรึกษาไห้เลยคับ(อันนี้ความเห็นส่วนตัว) สรุป พนักงานบอกว่าให้เราคิดหาทางออกเอาเองอันที่มันไม่กระทบทั้งตัวเราและแฟน ถ้าทำเรื่องฟ้อง เราอาจจะผิดเอง พนักงานว่ามางี้ แล้วถามว่าจะทำเรื่องฟ้องไหม ผมก็เลยไม่ทำ จะมาปรึกษากันก่อน

ความเห็นสุดท้ายของพี่ท่านนึงใน Pantip ในแง่กฎหมาย

จากข้อเท็จจริง จขกท และ แฟน ต่างอายุ เกิน ๑๗ ปีบริบูรณ์แล้วทั้งคู่ (พ้นวันเกิดปีที่ ๑๗) จึงมีคุณสมบัติอันอาจจะทำการหมั้นได้ตามกฎหมาย อีกทั้งฝ่ายหญิงซึ่งเป็นผู้เยาว์ยังได้รับความยินยอมจากมารดา จึงทำให้การหมั้นนั้นชอบด้วยกฎหมายและมีผลสมบูรณ์ ดังนั้นแม้ฝ่ายหญิงจะยังเป็นนักเรียน แต่ก็ไม่เข้าองค์ประกอบตาม กฎกระทรวง กำหนดความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๘ ข้อ ๑ (๗) เนื่องจาก การแสดงออกทางชู้สาวนี้ เป้นการแสดงออกโดยถูกต้องตามกฎหมายและปฏิบัติตามจารีตประเพณี จึงไม่เป็นการไม่เหมาะสมแต่อย่างใด

หากโรงเรียนจะได้ออกข้อกำหนดให้ นักเรียนต้องมาอยู่หอพักประจำโดยปราศจากความยินยอมของผู้ใช้อำนาจปกครอง ก็ย่อมเป็นการกีดขวางเสรีภาพในการเลือกที่อยุ่อาศัยจามรัฐธรรมนูญ และหากจะออกข้อกำหนดให้นักเรียนห้ามไปบ้านของ จขกท. และ พบปะ จขกท. ก็เป็นการออกข้อกำหนดที่ริดรอนเสรีภาพเกินควร อันขัดต่อรัฐธรรมนูญอีกเช่นกัน ข้อกำหนดดังกล่าวจึงไม่ชอบ และใช้บังคับไม่ได้

หากโรงเรียนฝืนบังคับ ย่อมเป็นการใช้อำนาจไม่ชอบ คำสั่งไล่นักเรียกออก หรือ ให้นักเรียนออกจากการเป็นนักเรียน ย่อมเป็นคำสั่งทางปกครองที่ไม่ชอบตามพรบ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง  และอยู่ภายใต้ พรบ.วิธีพิจารณาคดีปกครอง วึ่ง จขกท.สามารถอุทธรณ์คำสั่ง และฟ้องเป็นคดีปกครองต่อศาลปกครองได้

มาฟังอีกความคิดเห็นในอีกแง่มุม

อ่านทั้งหมดแล้วพอเข้าใจได้ว่า โรงเรียนอยากรักษาชื่อเสียง ไม่อยากให้ใครเอาไปพูดเสียหายว่า เด็กนักเรียนหญิงโรงเรียนนี้มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม  มองในแง่ดีก็ถือว่าครูบาอาจารย์ท่านหวังดี คุณกับแฟนน่าจะอดทนรอเวลาอีก 1 ปีเท่านั้นก็จะสำเร็จการศึกษาแล้ว เข้าใจว่าคุณกับแฟนอยากอยู่ใกล้ชิดกันเหมือนเดิม ถ้าไม่สามารถรับเงื่อนไขของทางโรงเรียนได้และไม่อยากเปลี่ยนแปลงหรืออดทน ก็ออกมาเรียน กศน.ค่ะ

จริง ๆ ในสังคมก็มีคู่อื่นเป็นตัวอย่างนะคะ อย่างคู่ที่คนในสังคมยกย่องให้เป็นเน็ตไอดอล คู่นั้นแต่งงานและจดทะเบียนสมรสกัน เวลาฝ่ายชายไปส่งฝ่ายหญิงที่โรงเรียนแล้วไปกอดจูบกันทั้ง ๆ ที่ฝ่ายหญิงอยู่ในเครื่องแบบนักเรียน ก็เคยได้ยินผู้ใหญ่ออกมาเตือนถึงความไม่เหมาะสม (ถึงแม้จะอ้างว่าเป็นสามี-ภรรยากันก็ตาม)

สังคมไทยอย่างไรก็ถือเรื่องขนบธรรมเนียมประเพณี ความสัมพันธ์ทางกายในที่สาธารณะควรระวังค่ะการอยู่ในร้านเกมผู้หญิงจึงถูกมองว่ามีพฤติกรรมไม่เหมาะสมวันไหนคุณมีลูกสาวคุณจะเข้าใจเองว่า ที่ครูบาอาจารย์ตักเตือนวันนี้ท่านคิดอย่างไร???

Credit  pantip

อ่านต่อ http://www.unigang.com/Article/42072