หนุ่มอ้างเป็น ตร. ลวงสาว ม.4 ไปล่อซื้อยา ก่อนพาหายเข้าป่าอ้อย เพื่อนโทรหารับสายร้องไห้โฮ

โพสต์โดย : Admin เมื่อ 1 พ.ย. 2560 11:57:27 น. เข้าชม 166366 ครั้ง

หนุ่มอ้างเป็น ตร. ลวงสาว ม.4 ไปล่อซื้อยา ก่อนพาหายเข้าป่าอ้อย เพื่อนโทรหารับสายร้องไห้โฮ

วันที่ 1 พ.ย. ศูนย์รับแจ้งเหตุ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์จากนักเรียนหญิงคนหนึ่งว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. มีชายฉกรรจ์อายุประมาณ 35–40 ปี แต่งกายคล้ายตำรวจ ขี่รถจยย.ฮอนด้าคลิก สีเหลือง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ มาหลอกล่อให้กลุ่มนักเรียนหญิงซึ่งนั่งกันอยู่ 4 คน บริเวณคลองละลมโบราณในเขตเทศบาลเมือง ช่วยไปเป็นสายล่อซื้อยาเสพติด พร้อมบอกจะให้เงินเป็นค่าจ้าง 1,000 บาท ซึ่ง น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี และ น.ส.ซี (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ซึ่งเรียนอยู่ชั้น ม.4 โรงเรียนแห่งหนึ่ง หลงเชื่อก็ขี่รถจักรยานยนต์ตามชายคนดังกล่าวไป

แต่พอไปถึงบ้านตามั๊ว ต.ชุมเห็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ชายคนที่อ้างเป็นตำรวจได้ออกอุบายให้ น.ส.บี ขี่รถจยย.ตามไป และชายคนดังกล่าวได้ให้ น.ส.บี ซ้อนท้าย โดยอ้างว่าใกล้ถึงจุดหมายที่จะล่อซื้อแล้ว เมื่อ น.ส.บี หลงเชื่อก็นั่งซ้อนท้ายรถจยย.ด้วย และบอกให้ น.ส.ซี ขี่รถจยย.นำหน้า ก่อนจะอาศัยช่วงเผลอเลี้ยวหายไป ซึ่ง น.ส.ซี พยายามขี่รถจยย.ตามหาแต่ก็ไม่เจอ จึงตัดสินใจขี่รถจยย.กลับมาหาเพื่อนยังจุดเดิมที่บริเวณคลองละลมโบราณ แล้วเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้เพื่อนฟัง

ซึ่งด้วยความเป็นห่วงจึงได้โทรศัพท์ติดต่อหา น.ส.บี ก็สามารถติดต่อได้แต่ไม่มีการรับสาย จึงพยายามโทรอีกหลายครั้ง น.ส.บี จึงรับสาย และได้ยินเสียงร้องไห้เหมือนกับหวาดกลัว พร้อมบอกกับเพื่อนว่าถูกชายคนดังกล่าวใช้มีดจี้ไว้อยู่บริเวณป่าอ้อยและบอกห้ามพูดอะไร ก่อนจะวางสายไป เพื่อนเห็นท่าไม่ดีจึงตัดสินใจโทรศัพท์แจ้งตำรวจมาให้ช่วยเหลือ

หลังได้รับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ ก็ได้กระจายกำลังออกติดตามค้นหา น.ส.บี โดยใช้นานกว่า 2 ชั่วโมง แต่ก็ไร้วี่แวว กระทั่งต่อมาได้รับแจ้งจากเพื่อนนักเรียนหญิงกลุ่มดังกล่าวว่า ชายที่อ้างเป็นตำรวจได้ขี่รถจยย.กลับมาส่ง น.ส.บี ที่บริเวณคลองละลมแล้ว โดยไม่ได้รับอันตรายหรือถูกกระทำอนาจารแต่อย่างใด ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะขี่รถจยย.หลบหนีไป

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พา น.ส.บี ไปที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ เพื่อสอบถามข้อมูลว่าเกิดอะไรขึ้น หลังจากเจ้าหน้าที่สอบถามแล้ว ก็แจ้งว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด และ น.ส.บี ก็ไม่ได้ติดใจเอาความเพราะไม่ได้รับอันตรายใดๆ เพียงตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเท่านั้น ส่วนกรณีที่ชายคนดังกล่าวอ้างตัวว่าเป็นตำรวจ เจ้าหน้าที่ก็จะได้ติดตามตัวมาสอบสวนข้อเท็จจริงและดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป