โพสต์โดย : Admin เมื่อ 4 ต.ค. 2560 01:43:02 น. เข้าชม 166365 ครั้ง
นายสมศักดิ์ ดลประสิทธิ์ รองเลขาธิการสภาการศึกษา ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคุรุสภา เปิดเผยความคืบหน้าการจัดทำร่างกรอบมาตรฐานวิชาชีพครูใหม่ ว่า การจัดทำกรอบมาตรฐานวิชาชีพครู ครั้งนี้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 กำหนดไม่ให้สภาวิชาชีพ เข้าไปก้าวก่ายการปฏิบัติงานของของสถาบันการศึกษา ดังนั้น ในส่วนของวิชาชีพครู สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา จึงดำเนินการปรับแก้กรอบมาตรฐานวิชาชีพฯ โดยเป็นการกำหนดมาตรฐานกว้าง ๆ ครอบคลุม 3 สมรรถนะ คือ ความรู้ ทักษะ และคุณลักษณะ เช่น คุณลักษณะความเป็นครู ความมีจิตวิญญาณความเป็นครู จากเดิมที่เน้นเฉพาะความรู้ ทั้งนี้กรอบมาตรฐานวิชาชีพครูใหม่ จะกำหนดกรอบกว้างๆ เพื่อให้สถาบันผลิตครูนำไปปรับใช้อย่างอิสระ ซึ่งต่อไปคุรุสภา จะไม่เข้าไปดูรายละเอียดขั้นตอนการผลิตอย่างที่ผ่านมา แต่จะไปดูที่หลักสูตรการผลิต และคุณภาพบัณฑิตที่จบออกมาเท่านั้น
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ต่อไปจะมีการสอบวัดความรู้ เพื่อขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู ซึ่งเดิมมีเป้าหมายว่าจะดำเนินการในปีการศึกษา 2561 แต่ยังมีรายละเอียดที่ต้องปรับแก้ อยู่ระหว่างดำเนินการ คาดว่าจะแล้วเสร็จเร็ว ๆ นี้ สำหรับการสอบวัดความรู้ เพื่อขอรับใบอนุญาตฯ เป็นการวัดคุณภาพ หากบัณฑิตครูที่จบจากสถาบันใด สอบได้น้อย ต่อไปก็จะไม่มีผู้สมัครเข้าเรียน ทั้งนี้เมื่อมีการปรับรายละเอียดกรอบมาตรฐานวิชาชีพครู แล้วขั้นต่อไป จะต้องมีการปรับแก้หลักเกณฑ์การรับรองปริญญาให้สอดคล้องกับมาตรฐานวิชาชีพครูด้วย โดยจะไม่ดูรายละเอียด เช่นหลักสูตรที่สอนครบตามสาระการเรียนรู้หรือไม่ จำนวนห้องเรียนต่อจำนวนนักศึกษา จำนวนอาจารย์ เป็นไปตามที่แจ้งต่อสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.)หรือไม่
“ยอมรับว่าหากดำเนินการเช่นนี้ อาจส่งผลกระทบทำให้มหาวิทยาลัยรับเด็กเข้าเรียนเกินกว่าจำนวนที่แจ้งให้สกอ. รับทราบ แต่คุรุสภาก็ต้องทำตามที่รัฐธรรมนูญฯ กำหนด ซึ่งตัวที่จะประเมินคุณภาพการผลิตบัณฑิตของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ได้อย่างแท้จริงคือ การสอบวัดความรู้ เพื่อขอรับใบอนุญาตฯ หากบัณฑิตครูจากสถาบันใดสอบได้น้อย ต่อไปก็ไม่มีใครไปเรียน ขณะเดียวกันในอนาคต จะเพิ่มการผลิตครูในระบบปิดมากขึ้น ซึ่งหมายความว่า หากต่อไปสถาบันใดผลิตครูเกินความต้องการ ก็จะต้องรับผิดชอบต่อบัณฑิตเอง”นายสมศักดิ์กล่าว และว่า การปรับมาตรฐานวิชาชีพครู ครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับการผลิตครูในหลักสูตร 5 ปี หรือ4 ปี เพราะต่อไปคุรุสภา จะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการเรียนการสอน แต่คุรุสภาจะดูว่า หลักสูตรที่แต่ละแห่งเปิดสอนเป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่ ซึ่งการดำเนินการจัดทำกรอบมาตรฐานวิชาชีพครูใหม่ คืบหน้าไปแล้วกว่า 60% เหลือเพียงการปรับรายละเอียด
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข่าวจาก มติชนออนไลน์ วันที่ 28 กันยายน 2560 - 16:50 น.