โพสต์โดย : py_sa เมื่อ 19 มี.ค. 2566 22:31:42 น. อ่าน 133 ตอบ 0
ชื่อเรื่อง รายงานผลการใช้แบบฝึกเสริมทักษะเพื่อพัฒนาความสามารถด้านการเขียนภาษาไทยเชิงสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่
3
โดย จุฑามาศ สุขสนาน
ปีการวิจัย 2563
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของแบบฝึกเสริมทักษะ
เพื่อพัฒนาความสามารถด้านการเขียนภาษาไทยเชิงสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่
3 ตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2)
เพื่อเปรียบเทียบความสามารถด้านการเขียนเชิงสร้างสรรค์ก่อนเรียนและหลังเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะ
เพื่อพัฒนาความสามารถด้านการเขียนภาษาไทยเชิงสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่
3 และ 3)
เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกเสริมทักษะ
เพื่อพัฒนาความสามารถด้านการเขียนภาษาไทยเชิงสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่
3 รูปแบบการวิจัยเป็นแบบการวิจัยเชิงทดลองขั้นต้น (Pre-Experimental Design) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่
3/2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการวิจัย 2563 โรงเรียนเทศบาล
6 (วัดตันตยาภิรม) สังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลนครตรัง กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
จำนวน 29 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1)
แบบฝึกเสริมทักษะเพื่อพัฒนาความสามารถด้านการเขียนภาษาไทยเชิงสร้างสรรค์ จำนวน 7 เล่ม 2)
แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การเขียนภาษาไทยเชิงสร้างสรรค์
จำนวน 9 แผน ใช้เวลาสอน 16 ชั่วโมง 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนชนิดเลือกตอบ 4
ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ 40
คะแนน 4) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกเสริมทักษะเพื่อพัฒนาความสามารถด้านการเขียนภาษาไทยเชิงสร้างสรรค์ จำนวน 10 ข้อ
และสถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าร้อยละ
ค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบค่า t-test
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการพัฒนาและการหาประสิทธิภาพของแบบฝึกเสริมทักษะ
เพื่อพัฒนาความสามารถในการเขียนภาษาไทยเชิงสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่
3 มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 85.00/85.27 ซึ่งมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80
2. การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่เรียนด้วยสร้างและหาประสิทธิภาพของแบบฝึกเสริมทักษะ เพื่อพัฒนาความสามารถในการเขียนภาษาไทยเชิงสร้างสรรค์
ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ
.01